วายแอลจี เปิดรายได้ปี 2564 รวม 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นบริษัทไทยที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เผยปัจจัยบวกราคาทองแกว่งตัวสร้างโอกาสทำกำไรมากขึ้น ส่งผลลูกค้าเปิดพอร์ตซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่าน www.ylgopenacc.com/ โตต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2565 เพิ่มขึ้น 60%
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2564 ที่ผ่านมา YLG มีรายได้รวม 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของช่วงปีก่อน (YoY)23.56% เพิ่มขึ้น 8.44% จากช่วงเดียวกันของช่วงปีก่อน (YoY) โดยจากการสำรวจของ Creden Data ระบุว่า ผลการดำเนินงานของ YLG ในปีที่ผ่านมาถือเป็นบริษัทที่ทำรายได้สูงสุดเป็นลำดับที่ 4 ของบริษัทไทย ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2564 จะเป็นช่วงที่มีความท้าทาย เนื่องจากภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทชั้นนำของไทยยังคงเติบโตเอาชนะวิกฤตได้อย่างดี
สำหรับการเติบโตของรายได้ดังกล่าวมาจากการขยายบริการของ YLG ให้ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยบริการซื้อขายทองคําแท่งบริสุทธิ์ 99.99% มาตรฐาน LBMA (London Bullion Market Association) และเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่มีบริการเปิดบัญชีเทรดทองคำแท่งออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงหน้าร้านก็สามารถเปิดบัญชีซื้อขายทองได้ สามารถซื้อขายเเบบราคาเรียลไทม์ Gold Spot 24 ชม. ผ่านwww.ylgopenacc.com/ ด้วยจุดเด่นของการให้บริการ 7 ข้อ คือ 1.ราคาดี 2.มีที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนตัว ให้ข้อมูลและดูเเลเเบบ Exclusive ตั้งเเต่เริ่มต้นการลงทุนในทุกขั้นตอน 3.เทรดราคาเรียลไทม์ Gold Spot ได้ตลอด 24 ชม. 4.เปิดพอร์ตช่องทางออนไลน์ได้ ไม่ต้องเดินทางมาที่บริษัท 5.บทวิเคราะห์อัปเดตรายวันจากนักวิเคราะห์มืออาชีพ 6.สามารถเลือกซื้อขายทอง หรือรับส่งทองที่บริษัท ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่จอดรถและห้องรับรองลูกค้า และ 7.พร้อมพนักงานบริการด้วย service mind ซึ่งเป็นหัวใจที่ทำให้ YLG ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวผันผวน ส่งผลให้นักลงทุนทั้งรายเก่าและรายใหม่หันมาเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น ส่วนในปี 2565 YLG ประเมินว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะแกว่งตัวผันผวนเช่นเดียวกับปีก่อน แม้ว่าเทรนด์ในระยะสั้นจะเป็นขาลง แต่นักลงทุนยังสามารถทำกำไรตามรอบของการดีดตัวช่วงสั้น ซึ่งการที่ราคาทองคำยิ่งแกว่งตัวนักลงทุนยิ่งมีโอกาสเก็งกำไรในระหว่างทางได้สูงขึ้น จากปัจจัยเหล่านี้จึงสนับสนุนให้ในปีที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาเปิดบัญชีซื้อขายทองคำโดยเฉพาะบัญชีออนไลน์กับ YLG เพิ่มขึ้น 2 เท่า และในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นอีก 60%
สำหรับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ YLG มองว่า หลังจากราคาลงมาทดสอบโซน 1,700-1,697 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้นทดสอบแนวต้านโซน 1,736-1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถ้าไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ อาจเกิดแรงขายกดให้ราคาอ่อนตัวลงอีกครั้งเพื่อสร้างฐานราคาต่อไป ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานต้องจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% จะไม่มีผลต่อราคาทองคำมากนักเนื่องจากเป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่ถ้าหากปรับขึ้นมากกว่าอัตราดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำได้
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อทองคำในช่วงนี้สามารถดูจังหวะซื้อที่แนวรับ 1,700-1,697 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ส่วนแนวต้านมองที่ 1,736-1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่การเคลื่อนไหวในรูปของเงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29,400-30,300 บาทต่อบาททองคำ