หุ้นไทยปิดตลาด -3.45 จุด โบรกฯ ชี้แรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มพลังงาน ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างมากทำเงินไหลออกจากตลาดหุ้น แนะจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,525-1,530 จุด และแนวต้านที่ 1,545-1,550 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 ก.ค.2565 ปรับตัวลดลง -3.45 จุด หรือ -0.22% โดยปิดตลาดที่ 1,533.37 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 64,710.47 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงบ่าย และเริ่มรีบาวนด์ลดช่วงลบน้อยลงในช่วงท้ายตลาด ซึ่งระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,539.96 จุด ในขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,517.51 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 501 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 481 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,146 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,592.04 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +749.80 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,277.99 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,063.84 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,927.88 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,118.95 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,663.91 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,902.88 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท ลดลง 0.10 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,559.71 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.64%
2.JMT ปิดที่ 68.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 3.79%
3.SINGER ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 5.56%
4.COM7 ปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 5.56%
5.MEGA ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.43%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 3.11%
2.SCC ปิดที่ 371.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 0.80 %
3.PTTEP ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.60%
4.AEONTS ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.28%
5.KCE ปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.82%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,124.45 จุด ลดลง -3.38 จุด หรือ -0.16% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 940.90 จุด ลดลง -1.67 จุด หรือ -0.18% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 564.78 จุด ลดลง -0.25 จุด หรือ -0.04%
ขณะที่นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างมากและเงินไหลออกจากตลาดหุ้น โดยมีแรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มพลังงาน แต่ช่วงท้ายตลาดเริ่มรีบาวนด์จากจุดที่ลงไปลึกถึงเกือบ 20 จุดในภาคบ่ายทำให้ปิดตลาดลดช่วงลบจากแรงซื้อกลับ ส่วนปัจจัยภายนอกวันนี้ได้แก่ตัวเลข GDP ในไตรมาส 2/65 ของจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลง และราคาน้ำมันยังคงปรับลงด้วยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานให้มีแรงขายสลับออกมา
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่ และอาจมีจังหวะรีบาวนด์ได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามทิศทางเงินบาท หากยังอ่อนค่าลงไปอีกอาจเป็นแรงกดดันทำให้ดัชนีซึมลงต่อ และต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรต่อไป รวมถึงการประกาศผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะทยอยออกมาด้วย พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,525-1,530 จุด และแนวต้านที่ 1,545-1,550 จุด