หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -9.98 จุด โบรกฯ ชี้นักลงทุนกังวล FED กลับมาขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาด หลังอัตราเงินเฟ้อล่าสุดพุ่งสูงถึง 9.1% ทำให้เกิดแรงเทขายในสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อย้ายเม็ดเงินกลับมายังสินทรัพย์ปลอดภัย แนะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในรอบถัดไป อาจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.50% หากดอกเบี้ยสหรัฐฯ สูงขึ้น ซึ่งจะเพิ่มส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ กว้างมากขึ้น พร้อมประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,535 จุด และแนวรับที่ 1,525 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 ก.ค.2565 ปรับตัวลดลง -9.98 จุด หรือ -0.65% โดยปิดตลาดที่ 1,536.82 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 61,695.41 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ดัชนี SET INDEX ปรับตัวร่วงลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,550.33 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,532.08 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 385 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 456 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,285 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +4,192.00 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +37.91 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,761.74 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,468.17 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,605.25 ล้านบาท ปิดที่ 95.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,707.22 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,495.99 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,298.38 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,287.37 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. EA ปิดที่ 80.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 2.88%
2.MEGAปิดที่51.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.00%
3.DVANCปิดที่204.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.49%
4.OR ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.98%
5.CBG ปิดที่ 114.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.44%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCB ปิดที่ 95.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 5.00%
2.BBL ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 3.05%
3.PTTEPปิดที่ 156.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.19%
4.KBANKปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.37%
5.CPALLปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.79%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,127.83 จุด ลดลง -14.62 จุด หรือ -0.68% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 942.57 จุด ลดลง -5.93 จุด หรือ -0.63% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 565.03 จุด ลดลง -6.14 จุด หรือ -1.07%
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงหลุด 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 97-98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งตลาดหุ้นบ้านเรามีน้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกัน นักลงทุนได้ย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าไปอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น โดยจะเห็นจากดัชนี Dollar Index ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ จากความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมครั้งถัดไปที่มีโอกาสปรับขึ้นมากถึง 1% หลังจากอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเร่งตัวถึง 9.1% สูงกว่าคาด
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งถัดไปในช่วงต้นเดือน ส.ค.65 ว่ามีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปถึง 0.50% หรือไม่ หากดอกเบี้ยสหรัฐฯ สูงขึ้นไปขึ้นอีก เพราะจะทำให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ กว้างมากขึ้น ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดว่าตลาดอาจซึมตัวลงต่อ โดยให้แนวรับที่ 1,525 จุด และแนวต้าน 1,535 จุด