ส.ธุรกิจรับสร้างบ้าน หวั่นต้นทุนก่อสร้างบ้านครึ่งปีหลังปรับตัวเพิ่ม คาดตลาดรวมรับสร้างบ้านกลุ่ม 5-10 ล้านยังเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ชี้การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ตลาดยังคงเป็นของผู้บริโภค
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) กล่าวว่า สถานการณ์การปรับขึ้นของต้นทุนสร้างบ้านเริ่มมีมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 65 และคาดการณ์ว่าภาพรวมของต้นทุน ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง ค่าขนส่ง เงินเฟ้อ การขาดแคลนแรงงาน จะยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการขึ้นค่าก่อสร้างบ้านในช่วงครึ่งหลังของปี 65
“ตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งหลังของปี 65 นี้ แม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่เป็นอุปสรรค เช่น ราคาวัสดุก่อสร้างที่ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน ปัญหาเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แรงงานที่ยังขาดแคลน รวมถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจะมีการปรับในช่วงปลายปี อย่างไรก็ดี ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่นี้ ยังพบว่ายังคงมีความต้องการสร้างบ้าน ในกลุ่มกำลังซื้อปานกลางและรายได้สูงซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ และวางแผนสร้างบ้านอยู่แล้ว” นายวรวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงตัวเลขการรับงานบริษัทสร้างบ้านในกลุ่มสมาคมฯ พบว่า ความต้องการสร้างบ้านไม่ได้ลดลง ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท และตามด้วยกลุ่มบ้านหรูที่อยู่ในระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ตัวเลขรับงานจะอยู่ในกลุ่มบ้านระดับราคาประมาณ 2-3 ล้านบาทเป็นหลัก
“โดยลูกค้าที่มีความพร้อมยังเดินหน้าปลูกสร้างบ้าน เพราะหากดำเนินการล่าช้าออกไปจะทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นจากต้นทุนต่างๆ ที่ปรับตัว ทำให้ในภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในกลุ่มสมาคมฯ น่าจะยังไปได้ดี และเติบโตได้มากกว่าปี 64 ซึ่งมูลค่าตลาดหลักๆ มาจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล”
ทั้งนี้ หากมองในภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะตลาดกลางและบ้านหรู แต่จากต้นทุนที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาต้นทุนของการก่อสร้างบ้านในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับต้นปีแรกประมาณ 3%
“ในยุคที่ต้นทุนการก่อสร้างบ้านสูงเป็นจังหวะที่ดีของการปลูกสร้างบ้าน โดยในช่วงครึ่งหลังของปีเป็นช่วงที่บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่เร่งทำการตลาด จัดโปรโมชันแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี จึงเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะได้บ้านในราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับต้นทุนจริงที่สูงขึ้น” นายวรวุฒิ กล่าว