“แกรนด์ แอสเสท” ผนึกความร่วมมือ “อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท” แบรนด์ธุรกิจบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม เปิดตัว “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” พร้อมมอบประสบการณ์สุขภาพดีแบบ Holistic Wellness ให้ผู้พักอาศัย ชูพูลวิลล่าระดับ 5 ดาว ริมทะเลท่ามกลางธรรมชาติ ย้ำจุดแข็งที่ตั้งโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ “อีอีซี” พร้อมก้าวสู่ “จุดหมายปลายทาง” ที่พักอาศัยด้านสุขภาพระดับเวิลด์คลาสแห่งอนาคต
นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ผนึกความร่วมมือกับ “อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท” (Amatara Wellness Resort) ผู้ประกอบธุรกิจรีสอร์ตและการให้บริการเพื่อสุขภาพชั้นนำ พัฒนาโครงการ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” โครงการที่พักอาศัยแบบบูรณาการแห่งใหม่ที่นำเสนอไลฟ์สไตล์ และวิถีความเป็นอยู่ระดับ 5 ดาว ผสมผสานเข้ากับการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน และความเป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับเวิลด์คลาส ที่มุ่งเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ที่พักอาศัยระดับลักชัวรีในประเทศไทย ภายใต้แนวคิดการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บนภูเขาที่มองเห็นทะเลอ่าวไทย และเกาะต่างๆ ประกอบด้วยพูลวิลล่า 61 หลัง คอนโดมิเนียม 282 ยูนิต และรีสอร์ตระดับ 5 ดาว 209 ห้อง พื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ ร้านอาหารสุดพิเศษ และโอเชียน สกาย บาร์ ทั้งหมดจะเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ผู้พักอาศัยในโครงการ
โดยความคืบหน้าล่าสุด ปัจจุบันพูลวิลล่า 9 หลังแรก ซึ่งนำสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ประสานเข้ากับการตกแต่งภายในที่ทันสมัย โดยการออกแบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เน้นสร้างความกลมกลืนกับธรรมชาติ เน้นการใช้แสงสว่างจากธรรมชาติ วัสดุที่ใช้เป็นออแกนิกที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย เช่นเดียวกับโปรแกรมการดูแลสุขภาพ การพักผ่อนและเวิร์กชอปต่างๆ จะมุ่งส่งเสริมและเน้นการสัมผัสธรรมชาติ เพื่อให้คนทุกวัยตั้งแต่รุ่นเด็กจนถึงรุ่นใหญ่ ได้มีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างหลากหลาย โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือทำให้ผู้พักอาศัยทุกคนได้พบกับวิถีของตัวเองในการมีสุขภาพที่ดี
จุดเด่นของโครงการยังเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค รวมถึงมีมาตรการเพื่อยกระดับโครงข่ายคมนาคมเพื่อพัฒนาพื้นที่อีอีซีให้กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีทั้งของไทยและภูมิภาคอาเซียนในอนาคต ซึ่งจะทำให้ระยอง กลายเป็นไพรม์โลเกชันที่ดึงดูดลูกค้าจากทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาดำเนินธุรกิจและพักอาศัย ซึ่งจะส่งผลดีต่อโครงการ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยความร่วมมือกับ “อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท” แบรนด์รีสอร์ตเพื่อสุขภาพที่โด่งดังจากภูเก็ต หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งโดดเด่นในการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ที่มุ่งสร้างสภาวะสมดุลด้วยวิถีธรรมชาติ จะยิ่งเสริมให้โครงการ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” เป็นไอคอนิกแลนด์มาร์กใหม่ของที่พักอาศัย และก้าวสู่ “จุดหมายปลายทาง” ด้านเวลเนสชั้นนำในระดับเวิลด์คลาส
“ความร่วมมือกับอมาธารา เวลเนส รีสอร์ท ผนึกกับความแข็งแกร่งของแกรนด์ แอสเสทฯ ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย จะทำให้อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง สามารถนำเสนอประสบการณ์การพักอาศัยที่เหนือระดับ พร้อมบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่พักอาศัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่จุดหมายการท่องเที่ยวด้านสุขภาพชั้นนำของโลกอีกด้วย” นายวิทวัส กล่าว
นายพีรพล นนทสูติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลล์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง เป็นสถานที่แห่งความหรูหราท่ามกลางความสุขสงบ ตั้งอยู่บนชายฝั่งในทำเลชั้นเลิศ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้มากกว่า 5,500 ต้น ซึ่งได้มีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โครงการยังมีระบบต่างๆ เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบการกำจัดน้ำ ด้วยการกักเก็บน้ำฝนมาบำบัดเพื่อมาใช้ในโครงการ รวมถึงระบบการบำบัดน้ำเสียโดยดูดน้ำขึ้นไปปล่อยลงท่อระบายน้ำด้านบน เพื่อไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล
โครงการ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็วโดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถเพียง 2 ชั่วโมง อีกทางหนึ่ง ผู้พักอาศัยสามารถบินตรงมาที่ “อู่ตะเภา” สนามบินนานาชาติของจังหวัดระยอง และพัทยา ซึ่งอยู่ห่างออกไป 77 กิโลเมตร ในราคาขายเริ่มต้นที่ 33 ล้านบาท