หุ้นบริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB หลังจากทรุดลงมา 5 วันติด จนหลุด 100 บาท แต่วันอังคารที่ผ่านมา ดีดกลับอย่างร้อนแรง และโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคารด้วยกัน โดยไม่รู้ว่าได้แรงหนุนจากปัจจัยด้านใด นอกจากคาดเดากันว่า อาจเป็นเพราะประกาศเลื่อนการซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด วงเงิน 17,850 ล้านบาท
หรือเป็นเพราะข่าวจะขายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
หุ้น SCB คึกคักตั้งแต่เปิดการซื้อขายเมื่อวันอังคาร ราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง ก่อนปิดที่ 102 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.26% มูลค่าซื้อขาย 1,635.48 ล้านบาท ติดอันดับหุ้นที่ซื้อขายสูงสุดอันดับ 4
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา SCB แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า การทำธุรกรรมซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด อยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และมีเงื่อนไขว่า ผลสอบทานธุรกิจของ “บิทคับ” ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบทานธุรกิจ และระหว่างหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยมีการขยายเวลาการทำธุรกรรมออกไปจากกำหนดการเดิม
ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 จะเข้าซื้อหุ้น “บิทคับ” สัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียน วงเงิน 17,850 ล้านบาท และจะสรุปข้อตกลงในไตรมาสแรกในปีนี้ แต่เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 แล้ว การสอบทานธุรกิจของ “บิทคับ” ยังไม่จบ โดยไม่กำหนดเวลาว่าจะจบเมื่อไหร่
แต่การแถลงความคืบหน้าล่าสุดของธุรกรรมซื้อหุ้น “บิทคับ” กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ และแม้ SCB จะไม่ประกาศล้มข้อตกลง แต่นักลงทุนเชื่อว่า “บิทคับ” คงม่ายขันหมาก SCB ไม่ซื้อแล้ว
นอกจากนั้น ยังมีข่าวว่า SCB เตรียมจะขายหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัดออก แต่ SCB ได้ออกมาปฏิเสธข่าว โดยยืนยันว่า ข่าวการขายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ ไม่มีความจริงแต่อย่างใด โดยการประเมินทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ ข้อเสนอหรือโอกาสต่างๆ บริษัทดำเนินการเป็นปกติอยู่แล้ว
การไม่ซื้อหุ้น “บิทคับ” เป็นการปลดเปลื้องภาระของ SCB โดยไม่ต้องทุ่มเงินลงทุนนับหมื่นล้านบาท แต่ผลตอบแทนอาจไม่คุ้มค่า และการขายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จะทำให้มีรายได้ก้อนโตเข้ามา ซึ่งเป็นผลดี และแม้ SCB จะปฏิเสธข่าว แต่ไม่ได้ปิดช่องการขายเสียทีเดียว
ทั้งข่าวการไม่ซื้อ “บิทคับ” กับข่าวขายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด รวมๆ กันแล้วเป็นปัจจัยบวก กระตุ้นให้นักลงทุนไล่เก็บหุ้น SCB ขณะที่ราคาหุ้นก่อนหน้าได้ปรับฐานลงมากแล้ว
ค่าพี/อี เรโชของ SCB อยู่ที่ 8.16 เท่า ต่ำกว่าหุ้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ซึ่งมีค่าพี/อี เรโช 9.26 เท่า และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ซึ่งมีค่าพี/อี เรโช 8.8 เท่า
บทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะให้ซื้อหุ้น SCB เหมือนกัน โดยราคาเป้าหมายเฉลี่ยของโบรกเกอร์ 5 แห่งที่ออกบทวิจัยอยู่ที่ 150 บาท ราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 134 บาท และราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ 167 บาท
แต่ SCB ยังย่ำต๊อกอยู่แถว 100 บาทต้นๆ เท่านั้น
ปลายสัปดาห์นี้เข้าสู่เทศกาลประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์แล้ว โดย SCB เป็นหนึ่งในหุ้นแบงก์ที่นักลงทุนเฝ้าจับตา ถ้าผลประกอบการออกมาสดใส หุ้น SCB คงได้ไปต่อ
เชิญนักลงทุนมือใหม่ร่วมสัมมนา หัวข้อ เลือกซื้อหุ้นอย่างไรไม่พลาดติดดอย โดย สุนันท์ ศรีจันทรา คอลัมนิสต์หุ้น หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา เฟ้นหุ้นแนวโน้มดี 5 เดือนหลังผ่านมุมมอง จิตรา ออมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.00-16.30 ณ MINT TOWER ถนนบรรทัดทอง
ค่าสัมมนาท่านละ 1,000 บาท รวมอาหารว่าง
รับจำนวนจำกัด 30 ท่าน พร้อมคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องต่อ 1 ท่าน
ผู้ร่วมเข้าสัมมนาจะต้องตรวจ ATK ล่วงหน้าก่อน 1 วัน แสดงผลหน้าห้องลงทะเบียนสัมมนา
สำรองที่นั่งติดต่อ คุณระวี โทรศัพท์ 09-1819-4787
