xs
xsm
sm
md
lg

SET INDEX ปิด -4.50 จุด เหตุตลาดกังวลโควิดรอบใหม่กลับมาระบาด-แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ฉุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -4.50 จุด นักวิเคราะห์ชี้ตลาดกังวลวิกฤตโควิดรอบใหม่จะกลับมาระบาดอีกรอบ จึงเกิดแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน แนะนักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนถึงแนวโน้มสัปดาห์หน้าแนะระมัดระวังโดยกลางสัปดาห์มีวันหยุดอาจกระทบวอลุ่มเทรด พร้อมประเมินกรอบดัชนีเคลื่อนไหวที่ 1,530-1,580 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 ก.ค.2565 ปรับตัวลดลง -4.50 จุด หรือ -0.29% โดยปิดตลาดที่ 1,557.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,581.06 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนวันนี้ ดัชนี SET INDEX แกว่งตัวในแดนบวกในครึ่งแรกของภาคเช้าหลังจากนั้นค่อยๆ ทยอยปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,569.48 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,554.26 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 468 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 521 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,133 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,709.03 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +222.33 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,604.34 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -327.02 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,995.97 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,542.26 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,373.81 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,873.72 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,653.23 ล้านบาท ปิดที่ 98.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.IVL ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.78%
2.PTTEPปิดที่159.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.60%
3.EGCOปิดที่178.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.13%
4.SCC ปิดที่ 379.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.26%
5.INTUCH ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.07%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 3.66%
2.KBANKปิดที่143.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.71%
3.SINGER ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.58%
4.JMARTปิดที่45.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.14%
5.RBF ปิดที่ 13.70 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 4.86%

ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,156.41 จุด ลดลง -4.12 จุด หรือ -0.19% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 954.36 จุด ลดลง -0.49 จุด หรือ -0.05% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 572.34 จุด ลดลง -4.68 จุด หรือ -0.81%

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนค่อนข้างมาก โดยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากตลาดอื่นๆ ที่แกว่งบวก โดยบ้านเราเกิดความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจกลับมาระบาดหนักอีกรอบ จึงมีแรงขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์

ขณะที่ตลาดยังรอติดตามปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หากยังออกมาแข็งแรงเหมือนเดิมจะเป็นการยืนยันคาดการณ์ทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีน และประเทศสำคัญที่จะทยอยออกมาในสัปดาห์หน้าด้วย

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกมา โดยจะเริ่มจากกลุ่มแบงก์ที่จะประกาศเป็นกลุ่มแรก ส่วนในสัปดาห์หน้าแนะนำให้ระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากบ้านเราจะมีวันหยุดกลางสัปดาห์อาจมีผลกระทบต่อปริมาณการซื้อขายได้ โดยประเมินกรอบดัชนีเคลื่อนไหวที่ 1,530-1,580 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น