นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยผลการประมูลซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพครึ่งปี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 SAM ชนะการประมูลหนี้เสีย NPLs จากสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรเครือข่ายในการบริหารลูกค้าที่ประสบปัญหาของคนไทย ให้กลับมาอยู่รอด อยู่ได้และเติบโตรวม 8 พอร์ต รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,200 บัญชี คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 5,200 ล้านบาท ประกอบด้วยกลุ่มสินเชื่อธุรกิจ (Corporate) กลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Housing Loan) ส่งผลให้ปัจจุบัน SAM ในฐานะบริหารสินทรัพย์ของภาครัฐ มีพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 22,000 ราย คิดเป็นมูลค่าทางบัญชีรวมทั้งสิ้นกว่า 350,000 ล้านบาท
ล่าสุด SAM ชนะการประมูลขายหนี้เสียของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Housing Loan) ประมาณ 250 รายการ มูลหนี้รวมประมาณ 700 ล้านบาท เป็นการเปิดประมูลแก่นักลงทุนที่สนใจ โดยเป็นกระบวนการตามมาตรฐานทั่วไปของตลาด ผ่านการดำเนินการของบริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ คอร์ปอเรท แอดไวเซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินในการขายหนี้ให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยยึดหลักเกณฑ์ความโปร่งใสและเป็นธรรมแก่ผู้เข้าร่วมประมูลทุกรายอย่างเท่าเทียมกันในทุกขั้นตอนการประมูล
นายธรัฐพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 คาดว่าสถาบันการเงินต่างๆ จะปล่อยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกประมูลในปริมาณเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น SAM ในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ของคนไทย จึงตั้งเป้าหมายซื้อหนี้ NPL จากสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขนาดพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพควบคู่ไปกับการดูดซับและลดปริมาณหนี้เสียของระบบสถาบันการเงินในประเทศ โดยแผนการรับซื้อหนี้เสียของ SAM ในปี 2565 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้และยืนยันความพร้อมที่สามารถเป็นผู้เล่นหลักในตลาดบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อเป็นหนึ่งในกลไกและเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือ ฟื้นฟูและดูแลคนไทยที่มีปัญหาหนี้สินให้กลับมามีชีวิตและดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ อันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความเติบโต ยั่งยืนให้แก่ประเทศโดยรวม