หุ้นไทยปิดตลาด -18.97 จุด โบรกฯ ชี้ดัชนีดิ่งทำจุดต่ำสุดใหม่ สะท้อนความกังวลปัจจัยในประเทศเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และเงินบาทอ่อนค่ารุนแรงใกล้แตะ 36 บาท/ดอลลาร์ อีกทั้งแนวโน้มการกลับมาระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ประเมินกรอบการลงทุนพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,560 จุด และแนวรับที่ 1,527-1,530 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 5 ก.ค. 2565 ปรับตัวลดลง -18.97 จุด หรือ -1.22% โดยปิดตลาดที่ 1,541.30 จุด มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 76,714.43 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกภาคเช้า ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงกดารซื้อขายภาคบ่าย ซึ่งวันนี้ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,569.96 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,539.32 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 385 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 279 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,535 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,687.03 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,024.70 ล้านบาท ขณะที่ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -479.09 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -183.24 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,594.37 ล้านบาท ปิดที่ 203.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,500.80 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,387.34 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4.JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,076.16 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 5.25 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,989.85 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 2.52%
2.ADVANC ปิดที่ 203.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.50%
3.BH ปิดที่ 183.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.38%
4.TGT ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ 8.39%
5.BCH ปิดที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 5.70%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือ 7.07%
2.JMARTปิดที่46.75 บาท ลดลง 4.25 บาท หรือ-8.33%
3.SINGER ปิดที่ 39.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 7.14%
4.EA ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 3.66%
5.SCC ปิดที่ 372.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.80%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,133.63 จุด ลดลง -19.05 จุด หรือ -0.88% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 943.49 จุด ลดลง -7.36 จุด หรือ -0.77% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 568.09 จุด ลดลง -18.95 จุด หรือ -3.23%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดใหม่ของปี สะท้อนความกังวลปัจจัยในประเทศ หลังจากอัตราเงินเฟ้อของไทยเดือน มิ.ย.เพิ่มสูงขึ้น 7.66% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.5% และอาจพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุงใหม่ในเดือน ก.ค.รวมถึงเงินบาทอ่อนค่าใกล้แตะ 36 บาท/ดอลลาร์, ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับมาเร่งตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าเงินเฟ้อเดือน ก.ค.นี้ จะเป็นจุดพีคจากนั้นจะค่อยๆ ปรับตัวลงมา ประกอบกับค่าเงินบาทก็น่าจะกลับมาแข็งค่าได้หลังจากอ่อนค่าไปพอสมควรแล้ว ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อสหรัฐก็น่าจะผ่านจุดสูงสุดในเดือนก.ค.นี้เช่นกัน ทำให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อคลี่คลายลงไปบ้าง
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ ให้แนวรับไว้ที่ 1,527-1,530 จุด และแนวต้าน 1,560 จุด