“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดฯ ครึ่งปีแรก 17,772 ล้านบาท ทะลุ 51% ของเป้าหมายทั้งปี หลังไตรมาส 2 ทำผลงานเยี่ยมกว่า 9,623 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังตลาดยังแกร่งจากหลายปัจจัยบวก เตรียมเปิดคอนโดฯ-บ้านเพิ่มอีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 26,500 ล้านบาท หนุนยอดขายทะลุ 35,000 ล้านบาท สร้างสถิติ All Time High ตามเป้า
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.2565) บริษัทมียอดขายสะสมจากโครงการที่อยู่อาศัยในเครือทั้งสิ้น 17,772 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึงกว่า 13% และคิดเป็น 51% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 35,000 ล้านบาท
จากยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม 73% กลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 27% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 61% และจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (On-going) ราว 39% หากนับเฉพาะยอดขายในช่วงไตรมาส 2/2565 (เม.ย.-มิ.ย.2565) บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึงกว่า 9,623 ล้านบาท นับเป็น All Time High ใหม่ของบริษัท เพราะ โครงการใหม่ที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 นั้น บริษัทยังคงเฝ้าติดตามหลากหลายประเด็นที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เช่น การแพร่ระบาดและความรุนแรงของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 สถานการณ์เงินเฟ้อ การปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อมั่นว่าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าอย่างจริงจังในการรับมือกับปัจจัยทั้งหมดข้างต้น ขณะกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายเซกเมนตฺยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากอัตราการดูดซับของโครงการในหลายทำเลที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี
ทั้งนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมในครึ่งปีหลังอีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 26,500 ล้านบาทตามแผน แบ่งเป็นกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 15,600 ล้านบาท กระจายตัวทั้งตลาดคอนโด Gen Z Gen Y ไฮเอนด์ ไปจนถึงตลาดซูเปอร์ลักชัวรี และกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 10,900 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการรุกหนักในช่วงไฮซีซัน หลังจากที่ครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่ไปเพียง 2 โครงการ
จากการติดตามสถานการณ์ให้พร้อมปรับตัวกับทุกปัจจัยภายนอก และความพร้อมในการบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 35,000 ล้านบาท และสร้างสถิติ All Time High ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้