หุ้นไทยปิดตลาด -8.29 จุด นักวิเคราะห์มองดัชนีปรับตัวร่วงลง เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดต่างประเทศ เหตุนักลงทุนกังวล GDP เศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาต่ำกว่าที่ประเมินไว้ แนะจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดในการประชุม ECB วันพรุ่งนี้โดยมองแนวรับที่ 1,570-1,580 จุด และแนวต้านที่ 1,590-1,600 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 29 มิ.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -8.29 จุด หรือ -0.52% โดยปิดตลาดที่ 1,586.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,564.35 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นรับแรงหนุนกลุ่มพลังงานและกลุ่มเปิดเมือง ซึ่งระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,590.05 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,582.52 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 440 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 497 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,204 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,230.85 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +675.69 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +293.86 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +261.30 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,072.18 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,896.94 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,249.82 ล้านบาท ปิดที่ 81.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,126.20 ล้านบาท ปิดที่ 199.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
5.JMT มูลค่าการซื้อขาย 1,748.28 ล้านบาท ปิดที่ 76.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.INTUCHปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 1.82%
2.PTTEPปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 0.62%
3.JMTปิดที่ 76.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 0.66%
4.RBFปิดที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาทหรือ 1.97%
5.KEXปิดที่ 24.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาทหรือ 1.27%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DVANCปิดที่ 199.00 บาท ลดลง 5.00 บาทหรือ 2.45%
2.RCLปิดที่39.50 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 4.82%
3.EGCOปิดที่176.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.12%
4.SCCปิดที่380.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 0.52%
5.CBGปิดที่ 108.00 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 1.37%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,186.24 จุด ลดลง -12.91 จุด หรือ -0.59% ขณะที่ดัชนี SET50 ปิดที่ 963.08 จุด ลดลง -5.65 จุด หรือ -0.58% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 605.85 จุด ลดลง -7.74 จุด หรือ -1.26%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง จากความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้มีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจถดถอยกลับมาอีกครั้ง
ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีแรงกดดันจากปิดสัญญา TFEX ซีรีย์ S50M22 ในช่วงสิ้นงวดไตรมาส 2/65 มาเป็นซีรีย์ S50U22 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ แต่ในภาพรวมมูลค่าการซื้อขายในวันนี้ไม่ค่อยมาก ซึ่งมองว่าอาจจะเป็นการพักตัวในระยะสั้น หลังจากรีบาวด์กลับขึ้นมา
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ยังต้องติดตามปัจจัยการประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐฯไตรมาส 1/65 จะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ติดลบ 1.5% รวมถึงการติดถามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เข้าร่วมประชุม ECB FORUM ในเรื่องความเห็นหรือส่งสัญญาณในเรื่องดอกเบี้ยและทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร และการประชุมโอเปค พลัส ซึ่งมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันโดยให้แนวต้าน 1,590-1,600 จุด แนวรับ 1,570-1,580 จุด