xs
xsm
sm
md
lg

จีนคลายมาตรการคุมโควิด ดันหุ้นปิดพุ่ง +14.27 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดพุ่ง +14.27 จุด นักวิเคราะห์ชี้ แรงหนุนจีนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดระบาด และแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเปิดเมืองเข้าเสริม อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าขึ้น 0.8% มองกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ประเมินแนวต้านที่ 1,600 และ 1,608 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,590 และ 1,585 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.27 จุด หรือ +0.90% โดยปิดตลาดที่ 1,594.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,346.04 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน จากแรงหนุนการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,96.27 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,576.75 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 890 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 575 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 752 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +2,641.26 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +667.47 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,944.71 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -364.02 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,615.31 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,573.95 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,108.78 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,724.60 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,248.79 ล้านบาท ปิดที่ 382.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาทหรือ 3.83%
2.EGCOปิดที่ 178.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 1.14%
3.ADVANC ปิดที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 0.99%
4.AOTปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาทหรือ 2.49%
5.BCPปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 4.10%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.COM7ปิดที่ 31.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.85%
2.AEONTSปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.58%
3.BGRIMปิดที่ 36.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.04%
4.EAปิดที่ 83.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 0.90%
5.GPSCปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.75%

ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,199.15 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ 0.98% ขณะที่ดัชนี SET50 ปิดที่ 968.73 จุด เพิ่มขึ้น 10.02 จุด หรือ 1.05% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 613.59 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ 0.22% 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นมาได้ค่อนข้างดี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อกลุ่มพลังงานและกลุ่มเปิดเมือง หลังจากรัฐบาลจีนประกาศลดวันกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 10 วัน ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้กักตัวนานถึง 3 สัปดาห์

นอกจากนี้เงินบาทยังแข็งค่าขึ้นค่อนข้างมากถึง 0.8% เป็นผลมาจากทิศทางเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากวานนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไหลออกไปจากประเทศไทยกว่า 31,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุด หากตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยังคงต้องติดตามการประชุมของโอเปกและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ว่าจะมีแผนปรับกำลังการผลิตอย่างไร รวมถึงติดตามการหารือของรัฐบาลไทยที่จะขอความร่วมมือกับโรงกลั่นนำส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเวลา 3 เดือนว่าจะมีผลออกมาเป็นอย่างไรรวมไปถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) และ ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ของจีนที่จะออกมาในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,590 จุด และ 1,585 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,600 และ 1,608 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น