ลลิลฯ ระบุ มิ.ย.-ก.ค. 2 เดือนสุดท้ายนาทีทองผู้ซื้อที่อยู่อาศัยต้นทุนเดิม ก่อนผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาตามต้นทุนใหม่ หลังแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น น้ำมันพุงไม่หยุด ด้านลลิลฯ จ่อปรับขึ้นราคาบ้าน 3-5% ย้ำยังคงแผนเดิมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 10-12 โครงการใหม่ มูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท ล่าสุด เปิดตัว ‘ลลิลทาวน์ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย’ พร้อมปรับดีไซน์เพื่อยกระดับแบรนด์
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) กล่าวว่า ลลิลฯ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเปิดโครงการใหม่ 10-12โครงการ มูลค่ารวม 7,000-8,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว 4 โครงการ
“อย่างไรก็ตาม ในการลงทุนโครงการใหม่ในช่วงนี้บริษัทยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงและจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการเมือง ซึ่งจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในระยะอันใกล้นี้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอก คือสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและต้นทุนการผลิตต่างๆ ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อรวมถึงส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย”
ล่าสุด ลลิลฯ ได้ทุ่มงบกว่า 1,400 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ “ลลิลทาวน์ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย” จับกำลังซื้อย่านนนทบุรี เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสในเรื่องทำเลที่มีศักยภาพและโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยโครงการลลิลทาวน์ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 52 ไร่ ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์แลนซีโอ คริป รวม 114 ยูนิต และโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ไลโอ รวม 344 ยูนิต ภายในโครงการมีฟิตเนสวิวสวน และสวนส่วนกลางสีเขียวขนาดใหญ่ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4-7 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ไลโอ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย มีพื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท
สำหรับต้นทุนการก่อสร้างแรงงานและวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นกับทุกบริษัท ในขณะที่ผู้ประกอบการยังคงชะลอการปรับขึ้นราคาแต่จากนี้ไปอีก 1-2 เดือน คือเดือนมิถุนายน -กรกฎาคม จะถือว่าเป็นช่วงนาทีทองของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ก่อนที่ผู้ประกอบการจะทยอยปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของลลิลฯ คาดว่าจะมีการปรับราคาขายสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 3-5%