xs
xsm
sm
md
lg

"ฉางเผิง จ้าว" ชี้ชะตาราคา Bitcoin อาจพุ่งแตะ $70,000 ในปลายปีนี้.....หรืออีกหลายปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Changpeng Zhao CEO Binance คาดการณ์ราคา Bitcoin อาจอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์ไปอีกอย่างน้อย 2 ปีนับจากนี้ หลังจากที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลพังทลายครั้งล่าสุด

จากการรายงานของสำนักข่าว the Guardian ระบุถึงบทสัมภาษณ์ของ ฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงของ Binance กล่าวว่าผู้คนจะ “มีความสุขมาก” เมื่อสี่ปีก่อนหากพวกเขาได้รับแจ้งว่า bitcoin จะซื้อขายที่ $20,000 ในปี 2022 ซึ่งการที่สินทรัพย์ crypto ที่สำคัญลดลงในช่วงสุดสัปดาห์ โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวที่แสดงถึงการล้างหน้าไพ่เคลียร์กำไรสำหรับสำหรับผู้ถือ bitcoin ระยะยาวจำนวนมาก

“ผมคิดว่าด้วยราคาที่ลดลงนี้ จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 68k เป็น 20k ตอนนี้ อาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่ราคาจะไต่กลับขึ้นมาอยู่ที่เดิม และซึ่งอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือนหรืออย่างน้อย 2 - 3 ปี ” ฉางเผิง กล่าว และเสริมว่า “ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้” ซึ่งจากราคาที่ปรับตัวร่วงลงมาที่ 20,000 เราคิดว่าต่ำมากในวันนี้ แต่คุณรู้ไหมว่าในปี 2018, 2019 ถ้าคุณบอกผู้คนว่า bitcoin จะอยู่ที่ 20,000 ในปี 2022 พวกเขาจะมีความสุขมาก โดยในช่วงปี 2018-2019 ราคา bitcoin เคลื่อนไหวในระดับ $3,000, $6,000”

อย่างไรก็ดีในวันพุธที่ผ่านมา Bitcoin ซึ่งมีราคาซื้อขายอยู่ที่ระดับ 20,491 ดอลลาร์ตามข้อมูลของ CoinDesk โดยถือว่าลดลงต่ำที่สุด อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ในช่วงสุดสัปดาห์ปลายปี 2020

ขณะเดียวกัน เมื่อถูกถามว่าเขาพิจารณาความผันผวนของ bitcoin และราคา crypto ในปัจจุบันอย่างไร ขณะนี้อยู่ในภาวะ “ปกติ” หรือไม่ เขาตอบกลับทันทีว่า “ถ้าคุณดูที่ประวัติราคราบิทคอยน์ตอนนี้มันสูงกว่าจุดสูงสุดสุดท้าย ดังนั้นไม่ว่าจะปกติหรือไม่ ผมคิดว่าอุตสาหกรรมยังคงเติบโตไปตามปกติอย่างแน่นอน ซึ่งความผันผวนของราคาถือว่าเป็นเรื่องปกติ”

อย่างไรก็ดีจากการที่ Bitcoin และ cryptocurrencies อื่น ๆ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการลดลงของตลาดหุ้น ที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นแนวทางของธนาคารกลางสหรัฐ สหราชอาณาจักร และสวิสในสัปดาห์ที่แล้ว อาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน่าสนใจน้อยลง ตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบางตัว ซึ่งราคาสามารถอิงตามความคาดหวังของรายได้ในอนาคตที่แข็งแกร่งในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อาจมีความน่าสนใจน้อยกว่าผลตอบแทนคงที่ จากข้อเสนอผลตอบแทนที่ได้ทันทีจากการลงทุน เช่น พันธบัตร ซึ่งมีความน่าสนใจมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของตลาด crypto ก็เชื่อมโยงกับปัญหาเฉพาะของสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อเดือนที่แล้ว จากการที่เกิดความล้มเหลวของ stablecoin ของ terra ซึ่งมูลค่าควรจะผูกติดอยู่กับดอลลาร์ ทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาใน cryptocurrencies อย่างมา ตามมาด้วยเซลเซียสเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นธุรกิจที่คล้ายกับธนาคารที่ให้ผลตอบแทนสูงจากการฝากเงินคริปโตเคอเรนซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหยุดการถอนของลูกค้า จากนั้น Three Arrows Capital ซึ่งเป็นกองทุนป้องกันความเสี่ยงในตลาด crypto ออกมายอมรับว่ากำลังประสบปัญหาอย่างหนักอาจถึงขั้นต้องเข้าสู่การล้มละลาย

ขณะที่ ฉางเผิง ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในรายงานของ Bloomberg ว่าหน่วยงานเฝ้าระวังทางการเงินของสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบว่า Binance ว่าเข้าข่ายละเมิดกฎหลักทรัพย์หรือไม่ เมื่อเปิดตัวการเสนอขายเหรียญเริ่มต้น ซึ่งเป็นรูปแบบการระดมทุนสำหรับบริษัทต่างๆ ของโทเค็น BNB ในปี 2560

“เราพูดคุยกับหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก พวกเขาส่งคำถามมาให้เรา เราตอบคำถามด้วยการ แสดงข้อมูลบล็อกเชนที่ตรวจสอบได้” เขากล่าว

ขณะที่ Binance ได้ระงับการถอนเงินชั่วคราวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องมาจากเกิดปัญหาเชิงระบบที่เรียกว่า “ธุรกรรมติดขัดบนเครือข่าย” เมื่อถูกถามว่าการหยุดการถอนเงิน เกี่ยวข้องกับปัญหาตลาด crypto ที่กำลังปั่นป่วนในวงกว้างหรือไม่ ฉางเผิงกล่าวว่า “ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริง ในความปั่นป่วนของตลาด หากมีธุรกรรมเกี่ยวกับบล็อคเชนมากขึ้น และโหนดบล็อคเชนจำนวนมากล้มเหลว”

นอกจากนี้เมื่อถูกถามว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้าใกล้ “ฤดูจำศีลของตลาดคริปโตอีกหรือไม่" ซึ่งเป็นแสลงที่นักเทรดมักใช้สนทนากันในช่วงที่ตลาดตกต่ำในปี 2017-2018 ฉางเผิงกล่าวว่าบางโครงการอาจประสบปัญหา เพราะพวกเขารู้สึกได้เมื่อตลาดอยู่ที่จุดสูงสุดโดยล่าสุดมูลค่าปัจจุบันของตลาด crypto ทั้งหมดนั้นต่ำกว่า $1tn เทียบกับประมาณ $3tn ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดย bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ $69,000 ในช่วงเวลาเดียวกัน

“ตอนนี้ รู้สึกว่าหลายโครงการกำลังอยู่ในภาวะผูกมัด เพราะเมื่อคุณทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทุกโครงการใช้เงินราวกับจะทำจุดสูงสุดตลอดกาล ย้อนหันกลับมาดูตอนนี้เวลาตกก็รู้สึกเหมือนหน้าหนาว แต่สำหรับโครงการที่ประหยัดเงิน เรายังโอเค เรายังคงจ้างงาน เรากำลังเติบโต” ฉางเผิงกล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น