ท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา และสระบุรีคึกคึก อัดอีเวนต์ต่อเนื่องครึ่งปีหลัง หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว เดินทางเข้าพักค้างคืน เผย 3 เดือนแรกรายได้สะพัด 2,354 ล้านบาท เติบโตเท่าตัว
นายอภิวัฒน์ ทับทิมโต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ซึ่งดูแลพื้นที่การท่องเที่ยวสระบุรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัดที่รับผิดชอบมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งผลสำเร็จเกิดจากแนวทางที่ทางสำนักงาน ททท.ได้ร่วมกับภาคเอกชน และชุมชนในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพักค้างคืนในจังหวัด สอดรับกับทิศทางของนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่วางเป้าหมายให้ทุกภาคส่งเสริมให้เกิดการเข้ามาพักค้างคืน กระจายรายได้ลงสู่ชุมชนและครัวเรือนมากขึ้น
"ถ้าเราโฟกัสจะเห็นว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสระบุรี ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนักจากเรื่องการระบาด โดยที่พักในพระนครศรีอยุธยา ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคนไทยรองจากกรุงเทพฯ ขณะที่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกที่จะเดินทางมาพระนครศรีอยุธยา เพื่อชมความงดงามของสถานที่โบราณสถานต่างๆ ที่มีคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งช่วงก่อนเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวหลักจะมาจากยุโรป และญี่ปุ่น และกลุ่มชาวจีนกลับมีสัดส่วนความหนาแน่นมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจในระยะที่ผ่านมาดีขึ้น
โดย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เตรียมความพร้อมรองรับการผ่อนคลายเปิดจังหวัดตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2564 ที่ผ่านมา ทั้งการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนสูงถึงกว่า 70% การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ารับมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยใหัผู้เข้ามาท่องเที่ยว หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้มีการนำร่องเปิดประเทศผ่านโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2564 ในจังหวัดเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ภูเก็ต พังงา เป็นต้น
ทั้งนี้ พระนครศรีอยุธยาได้ถูกคัดเลือกจากรัฐบาล และ ททท. ในเรื่องการจัดงานใหญ่ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และเปิดการเดินทางมากขึ้น ทางจังหวัดได้เริ่มจัดงานที่สำคัญต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เริ่มจาก ปลายปี 64 กับงานใหญ่ “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” การจัดงาน "เคานต์ดาวน์" ปีใหม่ จัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปี 2565 รวมถึง เริ่มมีการจองโรงแรมเพื่อจัดประชุมสัมมนา และอีกส่วนมีการเดินทางเข้ามาไหว้พระเสริมสิริมงคล เป็นต้น นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 ส.ค.2565 พร้อมกับทุกจังหวัด
ในส่วนของจังหวัดสระบุรี นอกจากมีวัดสำคัญแล้ว ยังมีสวนผลไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุด วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ร่วมกับ ททท.สํานักงานพระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี เกษตรสระบุรี และเกษตร อ.แก่งคอย จัดงานชิม ชอปใน “งานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนภูเขาชะอม” กิจกรรมเอาใจสาวกทุเรียน ด้วยการกินบุฟเฟ่ต์ทุเรียนภูเขาชะอม ท่านละ 600 บาท จํากัดเวลาการกิน อิ่มละ 1 ชั่วโมง เพลิดเพลินการฟินไปกับเนื้อทุเรียนตําบลชะอม 100% แกะให้พร้อมกินและเมนูอื่นๆ
และมีกิจกรรม “เที่ยวสระบุรี สุขใจ ใกล้กรุง” มอบโปรโมชันสุดคุ้ม คูปองส่วนลดซื้อผลไม้ 100 บาท เมื่อซื้อผลไม้มูลค่า 500 บาทขึ้นไป ในสวนผลไม้ 15 แห่ง จํานวนจํากัด 500 สิทธิเท่านั้น
และล่าสุด ได้เตรียมจัดงาน "Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ" ภายใต้โครงการ "Central See You เสน่ห์กลางใจ" เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด "เทรนดี้ C2 ภาคกลาง" กระตุ้นการเดินทางด้วยกระแสนิยมแห่งเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
โดยกิจกรรม "Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ" จะถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย.นี้ ณ แก่งลานรัก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พร้อมเปิดขายบัตร 3 แพกเกจ
นายอภิวัฒน์ กล่าวถึงผลสำเร็จในเชิงปริมาณและรายได้จากการท่องเที่ยวว่า เริ่มจากจ.พระนครศรีอยุุธยา ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.65 รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2,354 ล้านบาท เติบโตเป็น 2 เท่า โดยได้รับเป้าหมายนักเดินทางเข้าจังหวัดให้ใกล้เคียงกับปี 2562 ประมาณ 7.2 ล้านคนครั้งต่อปี
จ.สระบุรี ช่วง 3 เดือนแรกสามารถสร้างรายได้ประมาณ 2,354 ล้านบาท มีเป้าหมายนักเดินทางประมาณ 4.8 ล้านคนครั้งต่อปี