xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯ โหมแคมเปญ ทิ้งทวนคอนโดฯ พร้อมอยู่ช่วงสุดท้ายห้องชุดราคาถูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากธุรกรรมทางธุรกิจทุกประเภท รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะภายหลังจากการล็อกดาวน์ประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มีผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากในช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผู้ประกอบการคอนโดฯ ส่วนใหญ่ต่างมุ่งเป้าการพัฒนาโครงการเพื่อจับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและนิยมซื้อคอนโดฯ ในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย การขยายตัวของตลาดคอนโดฯ อย่างร้อนแรงทำให้เกิดการซื้อเพื่อลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนหายไปจากตลาดอย่างสิ้นเชิง

การหายไปของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาตินี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการคอนโดฯ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้ในตลาดอสังหาฯ มีจำนวนห้องชุดคอนโดมิเนียมถูกยกเลิกจองซื้อ และการโอนกรรมสิทธิ์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาโอเวอร์ซัปพลายในตลาดคอนโดฯ ดังนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราจึงเห็นว่าผู้พัฒนาคอนโดฯ มีการลดราคาขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการพัฒนาคอนโดฯ เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยในหลายโครงการได้จัดแคมเปญระบายสต๊อกมอบส่วนลดให้ลูกค้าสูงสุดถึง 40%

แม้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้จะมีการจัดแคมเปญ หรือโปรโมชันให้ส่วนลดราคามากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่สถานการณ์ตลาดคอนโดฯ ยังคงหดตัวอย่างหนัก และไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ ทำให้ในช่วงปลายปี 2564 เรายังคงเห็นโปรโมชันแรงๆ เช่นการให้ส่วนสด 30-40% พร้อมของแถมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดฯ พร้อมอยู่ ซึ่งกลายเป็นสต๊อกที่ผู้ประกอบการต้องเร่งระบายออกโดยการยอมลดกำไรหรือบางรายถึงขั้นยอมขายเท่าทุนเพื่อให้ได้เงินสดเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน


อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2565 นี้ตลาดคอนโดฯ เริ่มกระเตื้องขึ้นหลังจากมีสัญญาณบวกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกยอดขายโครงการคอนโดฯ พร้อมอยู่เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้ระบบรถไฟฟ้า และที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังการเปิดประเทศและการทยอยกลับมาทำงานของพนักงานในออฟฟิศต่างๆ จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ความต้องการซื้อเพื่อการลงทุนคอนโดฯ ย่านใจกลางเมืองส่งสัญญาณฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง

โดยการฟื้นตัวกลับมาในครั้งนี้กลุ่มนักลงทุนที่มีเม็ดเงินพร้อมจะลงทุนมองว่าเป็นช่วงที่เหมาะในการซื้อห้องชุดเพื่อการลงทุนเนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะมีการจัดแคมเปญระบายสต๊อกให้ส่วนลดจำนวนมากๆ เป็นช่วงสุดท้ายแล้วหลังจากที่มีการเปิดประเทศและมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติทยอยเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ขณะเดียวกัน การกลับมาทำงานของพนักงานในธุรกิจต่างๆ เริ่มมีผลให้ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยในย่านใจกลางเมืองกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มการฟื้นตัวกลับมาของดีมานด์จากกลุ่มนักลงทุน กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง จะมีสัญญาณเป็นบวกมากขึ้น แต่เนื่องจากจำนวนสต๊อกคงค้างที่อยู่ในมือของผู้ประกอบการยังมีอยู่จำนวนมากทำให้ในช่วงไตรมาส 2 นี้ ผู้บริษัทอสังหาฯ ยังมีการจัดแคมเปญแรงเพื่อระบายสต๊อก โดยเฉพาะสต๊อกคอนโดฯ พร้อมอยู่ สังเกตได้จากผู้ประกอบการที่มีสต๊อกคอนโดมิเนียมในมือหลายรายต่างโหมดจัดแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้


ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่อย่าง บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งล่าสุดประกาศ ยกทัพคอนโด 5 แบรนด์ ได้แก่ พลัมคอนโด เดอะไพรเวซี เดอะทรี แชปเตอร์ และแชปเตอร์ วัน รวม 18 โครงการจากทุกทำเลทุกระดับราคาเริ่มตั้งแต่ 1.29-4.19 ล้านบาท มาจัดโปรสุดร้อนแรงในรอบปี ภายใต้แคมเปญ “อื้อ!!” ซึ่งอัดแน่นจัดด้วยข้อเสนอดึงดูดใจผู้บริโภคที่มีแผนจะซื้อคอนโดฯ อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน โดยแคมเปญดังกล่าว พฤกษาฯ ให้ทั้งส่วนลดเงินสดเพิ่มสูงสุดถึง 600,000 บาท บวกของแถมแจกหนักไม่อั้น ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ฟรีค่าจดจำนองและค่าใช้จ่ายวันโอนครบทุกรายการ แถมยังดิวกับแบงก์เพื่อสนับสนุนเงินกู้ที่ลูกค้าสามารถผ่อนสบายๆ เพียงล้านละ 2,000 บาทต่อเดือนตลอด 12 เดือน พร้อมรับของแถมและข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมโดยแคมเปญจะหมดเขตในวันที่ 12 มิ.ย.2565

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จัดแคมเปญเน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดฯ พร้อมอยู่ โดย ศุภาลัยฯ เตรียมข้อเสนอพิเศษเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจลูกผู้บริโภคที่มีแผนจะซื้อทีอยู่อาศัยใหม่ ภายใต้แคมเปญ “ศุภาลัย ไม่ได้ขิง ได้เยอะกว่าจริงๆ” โดยมอบส่วนลด และของแถมรวมมูลค่าสูงสุดถึง 900,000 บาท เมื่อจองบ้านและคอนโดฯ พร้อมอยู่ในของศุภาลัย พร้อมรับฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า-มิเตอร์น้ำ พร้อมทั้งรับ Cash Back สูงสุด 200,000 บาท รวมถึงข้อเสนอพิเศษกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับการจองภายในวันที่ 1 พ.ค.-30 มิ.ย.2565


ด้าน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งแคมเปญปลุกตลาดคอนโดฯ รับการกลับมาคึกคักของตลาดอีกครั้ง โดยล่าสุดจัดแคมเปญ “Are You condo type?” ถ้าใช่...จองให้ไว เทหมด ไม่มีกั๊ก โดยนำ 17 คอนโดฯ พร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า มาจัดโปรโมชันพิเศษ “มอบส่วนลดสูงสุด 4 ล้านบาท อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน ฟรี! ค่าส่วนกลางสูงสุด 3 ปี กู้ 100% ไม่ผ่าน ยินดีคืนเงิน และพิเศษสุดฟรีแพกเกจทัวร์สูงสุด 250,000 บาท” ราคาเริ่มต้น 1.65-14.9 ล้านบาท ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดโปรโมชันพิเศษ “ดีลดี ราคาเดียว” เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดยนำคอนโด 11 โครงการ ภายใต้แบรนด์ Niche MONO Niche Pride Flexi สาทร และ J Condo คอนโดฯ ทำเลใกล้รถไฟฟ้าทั่วกรุง ซึ่งมีระดับราคาตั้งแต่ 1.35-2.99 ล้านบาท เช่น โครงการ Niche MONO แจ้งวัฒนะ NICHE MONO Mega Space บางนา Niche MONO รามคำแหง NICHE PRIDE เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ Niche MONO สุขุมวิท-แบร์ริ่ง Niche MONO เจริญนคร Niche MONO Itsaphap Niche MONO สุขุมวิท-ปู่เจ้า Niche MONO พระราม 9 FLEXI สาทร-เจริญนคร เฟส 1 และ J CONDO Sathon - Kanlaphruek ซึ่งได้คัดยูนิตสวยทุกชั้นราคาเดียว พร้อมฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน ฟรีเฟอร์ ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท

ขณะที่ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ออกแคมเปญ “ล็อค! เงินผ่อน จ่ายน้อย ผ่อนคงที่นาน 6 ปี” กับคอนโดฯ พร้อมอยู่ 16 โครงการ ย่านใกล้รถไฟฟ้า ย่านธุรกิจ เมืองตากอากาศริมทะเล และต่างจังหวัด โดยลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในแคมเปญดังกล่าว จะได้รับสิทธิผ่อนชำระค่างวดเพียงล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลานานถึง 6 ปี เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย.นี้ 

นอกจากนี้ ผู้ที่จองซื้อโครงการในแคมเปญ ล็อค! ค่าใช้จ่ายจะได้รับ ฟรี ค่าใช้จ่ายวันโอน* ค่าส่วนกลางสูงสุด 6 ปี และล็อค! ค่าครองชีพ ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ โดยโครงการที่ร่วมแคมเปญ ประกอบด้วย ลุมพินี สวีท ดินแดง-ราชปรารภ ลุมพินี เพลส รัชดา-สาธุ ลุมพินีเพลส พระราม 3-ริเวอร์ไรน์ ลุมพินี ซีเล็คเต็ค สุทธิสาร-สะพานควาย ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระรามสอง ลุมพินี พาร์ค บรมราชชนนี-สิรินธร ลุมพินี พาร์ค พหล 32 ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 101/1-ปุณณวิถี ลุมพินีวิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ลุมพินี เพลส เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ลุมพินี ซีเล็คเต็ด จรัญ 65-สิรินธร สเตชั่น ลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ 2 ลุมพินี ซีวิว ชะอำ ลุมพินี เพลส ยูดี-โพศรี จังหวัดอุดรธานี


ขณะที่ บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดงานมหกรรมคอนโดมิเนียมครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ภายใต้ชื่อ “โปรแร๊ง เกินปุยมุ้ย” ในวันที่ 9-12 มิ.ย.65 นี้ ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้นำคอนโดฯ พร้อมอยู่และพรีเซล จำนวน 21 โครงการ ครอบคลุมทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และอีอีซี เช่น แฮมป์ตัน (Hampton) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play, โซ ออริจิ้น (So Origin) บริกซ์ตัน (Brixton) มีจัดโปรราคาพิเศษเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท มาร่วมออกบูทและจัดโปรโมชันในงาน เช่น รับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท ดาวน์ 0 บาท ดอกเบี้ย 0% และยังมีของแถมอีกมากมายการระดมจัดแคมเปญระบายสต๊อก เร่งการตัดสินใจลูกค้าของบริษัทอสังหาฯ ในช่วงนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นการดัมป์ราคาขายระบายสต๊อกคอนโดต้นทุนเดิมครั้งสุดท้ายของปีนี้แล้ว

โดยก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ได้ออกมาระบุว่า การจัดแคมเปญในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้น่าจะเป็นการลดราคาระบายสต๊อกเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้แล้ว และหลังจากนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นการลดราคาขายคอนโดฯ ที่มีมูลค่าเยอะขนาดนี้ให้เห็นอีกแล้ว

เนื่องจากภาพรวมตลาดอสังหาฯ จากนี้ไปจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวมากขึ้นจากฐานที่ต่ำสุดในช่วงปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ากำลังซื้อจะค่อยๆ ดีดตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกำลังซื้อจากเรียลดีมานด์ในประเทศ แม้ว่ายังคงถูกกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือน และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยเชื่อว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่มีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัย และกลุ่มนักลงทุนที่จะซื้อลงทุนระยะยาว เพราะมีซัปพลายที่เป็นต้นทุนเดิมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่มีออกมาให้เลือกหลายทำเล และทุกระดับราคา แถมยังประหยัดงบจากมาตรการลดค่าจดทะเบียนการโอน ค่าจดจำนองเหลือ 0.01%

ดังนั้น ในช่วงนี้จึงถือว่าเป็นจังหวะที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยให้ได้ราคาดีที่สุดเพราะหลังจากนี้เมื่อตลาดฟื้นตัวกลับมา ประกอบกับแนวโน้มต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะทำให้ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ราคาดีอย่างเช่นในปัจจุบันอีกแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น