xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดคลายกังวลเงินเฟ้อ-กดบอนด์ยิลต์ลง ดัน SET INDEX ร้อนแรง ปิด +14.86 จุด แรงซื้อหุ้นกลุ่มเปิดเมืองหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +14.86 จุด นักวิเคราะห์ชี้ ตลาดทุนผ่อนคลายความกังวลอัตราเงินเฟ้อ ที่ผ่านจุดสูงสุด และ Bond yield สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง อีกทั้งยังมีแรงส่งจากหุ้นกลุ่มเปิดเมืองเข้าหนุน แนะเข้าเก็บเมื่อราคาหุ้นย่อตัวลง พร้อมประเมินกรอบการลงทุน แนวรับที่ 1,640-1,645 และแนวต้านที่ 1,665-1,670 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 พ.ค. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +14.86 จุด หรือ+0.91% โดยปิดตลาดที่ 1,653.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 67,561.59 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ SET INDEX ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวัน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,656.54 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 1,646.95 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,161 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 549 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 641 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,672.94 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +787.40 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -4,409.99 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -50.35 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,239.84 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,309.29 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,763.32 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,499.15 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,494.81 ล้านบาท ปิดที่ 25.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 191.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.59%
2.SCC ปิดที่ 369.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 0.82%
3.MTC ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 5.26%
4.GPSC ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 3.86%
5.CPN ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 3.70%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่217.00 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.46%
2.RCL ปิดที่44.50 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 1.11%
3.TOP ปิดที่56.50 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 0.88%
4.CP ปิดที่32.00 บาท ลดลง 0.25 บาทหรือ 0.78%
5.MEGA ปิดที่52.50 บาท ลดลง 0.25 บาทหรือ 0.47%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,266.59 จุด เพิ่มขึ้น 22.05 จุด หรือ 0.98% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 995.88 จุด เพิ่มขึ้น 8.80 จุด หรือ 0.89% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 646.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด หรือ 1.01%

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค รับแรงหนุนจากความคลายกังวลตัวเลขเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว หลังจากสหรัฐฯประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (Core PCE) เดือน เม.ย.ออกมาเริ่มเห็นการชะลอตัวลงทำให้ตลาดผ่อนคลายแรงกดดันการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงๆเริ่มลดลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) 10 ปี ได้ปรับลดลงมาที่ 2.75% หนุนต่อตลาดหุ้น และทำให้เงินไหลกลับเข้ามาเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง

ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการบริโภค ปรับตัวขึ้น และมีแรงซื้อเข้ามาค่อนข้างมาก สะท้อนภาพความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มองว่าหดัชนีปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากหลัง และขึ้นมาทดสอบระดับแนวต้าน 1,650จุดได้ อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ดัชนีย่อตัวลงมาได้ในระยะสั้น และแกว่งตัวไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่โดยปัจจัยที่ติดตามมีการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปที่มีถึงสิ้นเดือนพ.ค.นี้ จะมีมาตรากรคว่ำบาตรรัสเซียออกมาเพิ่มเติมอย่างไร และพรุ่งนี้จะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นเข้าออก MSCI Rebalance ซึ่งได้รับข่าวไปแล้วโดยให้แนวต้าน 1,665-1,670 จุด แนวรับ 1,640-1,645 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น