“กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์” ผู้ให้บริการนายหน้าประกันภัย ภายใต้บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) ในเครือกรุงศรี ออโต้ เดินหน้ารุกตลาดประกันภัยด้วยกลยุทธ์ “Tech & Talk” ส่งมอบประสบการณ์สะดวกสบายทุกแพลตฟอร์มดิจิทัล ควบคู่คำปรึกษาเชิงลึกในทุกจุดบริการ ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำโบรกเกอร์ประกันภัยยานยนต์ พร้อมปักธงเสริมแกร่งในเซกเมนต์ประกันภัยอื่นๆ ตั้งเป้ามูลค่าเบี้ยประกันภัยรวมปี 2565 แตะ 9,000 ล้านบาท
น ส.ชญาน์ธิป พันธุ์มณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจประกันภัยมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ โดยมี 2 ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นจากสังคมสูงวัย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้มีการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว โดยรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ระบุว่า มูลค่าตลาดประกันภัยออนไลน์ในปี 2564 ยังมีสัดส่วนเพียงประมาณ 2% ของมูลค่าตลาดโดยรวม จึงชี้ให้เห็นว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จึงได้วางกลยุทธ์รุกตลาดในปีนี้ โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ประกันภัยให้สะดวกสบาย และตอบอินไซต์ความต้องการได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบรับกับแนวโน้มดังกล่าว กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ จะดำเนินธุรกิจบนกลยุทธ์ “Tech & Talk” ผ่าน 2 แนวทาง ได้แก่ Tech บริการครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม สะดวกรวดเร็ว มากกว่าคำว่าง่าย ส่งมอบบริการในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์หลัก ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, GO Application by Krungsri Auto และ LINE Official Account โดยมีผู้ช่วยด้านประกันภัย “คานะ (KANA)” อำนวยความสะดวก ตั้งแต่เปรียบเทียบราคา กรอกข้อมูล ชำระเงิน และส่งกรมธรรม์ออนไลน์ สำหรับในปีนี้ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ เตรียมเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการบน GO Application by Krungsri Auto ได้แก่ ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และเปิดให้บริการประกันเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนา “คานะ” เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการบริหารจัดการพอร์ตประกันภัยในอนาคต
และ Talk คำปรึกษาเชิงลึก ต่อติดทุกจุดบริการ และประสบการณ์ที่แตกต่าง เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าผ่านการให้คำแนะนำโดยพนักงานที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ การออกแบบประสบการณ์ที่เอื้อให้ลูกค้าขอรับคำปรึกษาได้อย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ แม้จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ โดยการให้คำแนะนำทั้งหมดนี้ยังมีพื้นฐานอยู่บนการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ซึ่งทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละรายและช่วงเวลาอย่างแท้จริง
"ทั้ง 2 แนวทางมีความสำคัญสำหรับเรา แนวโน้มเรื่อง Tech เป็นเรื่องที่ต้องมาทั้งแพลตฟอร์ม ทั้งการพัฒนา 'คานะ' ขณะเดียวกัน ในระหว่างทางของ Tech ก็อาจจะต้องมี Talk เข้ามาช่วยสำหรับบางกลุ่ม ขณะเดียวกัน ต้องยกระดับบุคลากรให้สามารถตอบโจทย์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทตัวแทนประกันอยู่ 1,600 คน มีเจ้าหน้าทื่ Talk 60 คน พร้อมกันนั้น ยังมีแนวทางที่จะขยายความร่วมมือไปยังบริษัทอื่นๆ ในกลุ่ม เช่น กรุงศรีคอนซูมเมอร์ผู้ให้บริการบัตรเครดิต รวมถึงขยายผลิตภัณฑ์ประกันให้เปิดกว้างยิ่งขึ้น โดยในปีนี้มีแผนที่จะรุกผลิตภัณฑ์ประกันด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย"
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญการตลาดในไตรมาส 2 กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ได้เน้นจุดขายในด้านความคุ้มค่า เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทาย โดยมีแคมเปญหลัก คือ ประกันภัยยานยนต์ชั้น 2+ ค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 5,700 บาท สำหรับรถยนต์และรถกระบะ และเริ่มต้น 8,900 บาท สำหรับบิ๊กไบค์ พร้อมทางเลือกในการแบ่งจ่ายเงินสดสูงสุด 6 งวด โดยโปรโมชันสำหรับรถยนต์และรถกระบะ เริ่มต้นแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565-30 มิถุนายน 2565 และบิ๊กไบค์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565-30 มิถุนายน 2565
“ตลอดการดำเนินธุรกิจเกือบ 30 ปี เราเชื่อว่าการเพิ่มประสิทธิภาพบริการด้วยเทคโนโลยีต้องมาพร้อมกับคำปรึกษาที่ตรงใจและจริงใจต่อลูกค้า เราจึงมั่นใจว่ากลยุทธ์ ‘Tech & Talk’ จะสามารถสร้างความแตกต่างให้แก่แบรนด์กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัยรวมในปี 2565 จะแตะ 9,000 ล้านบาท ซึ่งมีเบี้ยประกันภัยดิจิทัลอยู่ที่ 350 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 15% และคิดเป็นสัดส่วน 4% ของยอดเบี้ยประกันรวม รวมถึงตอกย้ำความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเซกเมนต์ประกันภัยยานยนต์และประกันภัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน” น.ส.ชญาน์ธิป กล่าวปิดท้าย