หุ้นไทยปิดพุ่ง 30.11 จุด นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้พุ่งแรงหลังลงไปลึก ตอบรับ GDP ไทยไตรมาส 1/65 สูงกว่าคาด แต่ปัจจัยลบเดิมยังกดดันอยู่ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ และภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงต่อเนื่อง แม้มีปัจจัยบวกจากจีนเตรียมคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้แต่ตัวเลขเศรษฐกิจยังซบเซา แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดผันผวนเตือนระวังแรงขายทำกำไร
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างแรงหลังจากลงไปค่อนข้างมาก แต่มองเป็นการรีบาวนด์จากภาพรวมผ่อนคลายชั่วคราว เนื่องจากยังมีปัจจัยลบเดิมกดดันตลาดอยู่ทั้งเรื่องสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยังต้องจับตาท่าทีรัสเซียต่อกรณีฟินแลนด์และสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ อีกทั้งภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังสูงต่อเนื่องจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต้องเดินหน้านโยบายการเงินตึงตัวในเชิงรุก
ขณะที่มองกำไรบริษัทจดทะเบียนของไทยในไตรมาส 1/65 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 2.6-2.7 แสนล้านบาท ใกล้เคียงที่ ASP คาด ช่วยหยุด downside ของตลาดไว้ได้ระดับหนึ่ง ขณะที่จีนมีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยจีนเตรียมที่จะคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนซบเซา ทั้งยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ลดลง
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,614.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.11 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.9% มูลค่าการซื้อขาย 85,222.10 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายเทิดศักดิ์ คาดว่าตลาดยังมีความผันผวน และให้ระวังแรงขายทำกำไร โดยให้แนวต้านที่ 1,630 จุด แนวรับที่ 1,600 จุด
ด้านนายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวนด์ค่อนข้างแรงหลังจากตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 1/65 สูงกว่าคาด โดยราคาหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ และดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์สก็บวก แนะติดตามความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคืนนี้ว่ามีความเห็นต่อนโยบายการเงินอย่างไร