นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ HEMP ผู้นำด้านธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ (Healthcare) ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การบริการและการแพทย์ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแจ้งว่าจะมีการปลดเครื่องหมาย C หุ้น HEMP ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ รวมทั้งปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้งบการเงินไตรมาส 1/2565 ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของตลาด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2565 บริษัทมีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำธุรกิจส่งเสริมสุขภาพด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพร การแพทย์ รวมทั้งการผลิตยากัญชง กัญชา กระท่อมครบวงจร โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทย และแพทยสมาคมการแพทย์แผนไทยฯ
ทั้งนี้ บริษัทได้มุ่งเน้นธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ธุรกิจโรงพยาบาล และ HEMP ถือเป็นผู้บุกเบิกและได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการอาหารและยา ให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรสกัด เป็นยาสามัญประจำบ้านรายแรก หลังจากนั้นหลายแบรนด์ได้รับอนุญาตเป็นยาสามัญประจำบ้าน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีตัวเลือกมากขึ้นและราคาถูกลง โดยมีช่องทางจัดจำหน่าย ผ่านร้านสะดวกซื้อ เช่น ร้าน 7-11 และร้าน CJ supermarket และร้านยา Health Up ตลอดจนร้านยาชั้นนำทั่วประเทศไทย
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจด้านการปลูกกัญชง หลังจากที่บริษัทฯ ได้ลงทุนปลูกในพื้นที่ Hemp Space อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท ไทยกัญชง จำกัด ซึ่งมีพื้นที่ปลูกกว่า 1,400 ไร่ ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรองรับการสกัดช่อดอกเพื่อจำหน่ายสารสกัด และน้ำมันกัญชง (Hemp Seed Oil)
“HEMP มีความพร้อมในการแข่งขันหลายๆด้าน เนื่องจากเราเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีต้นทุนการปลูกที่ต่ำ และการที่เราได้ร่วมทุนกับบริษัท ไทยกัญชง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความพร้อมในทุกด้านทั้งที่ดินการเกษตร และระบบสาธารณูปโภคในการปลูกกัญชงทั้งแบบ Indoor โรงเรือนและ Outdoor รวมถึงการจัดการการผลิต และผู้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการปลูก ในอนาคตที่มีการแข่งขันกับต่างประเทศหรือราคาขายที่ลดลงทำให้เรายังอยู่ได้ด้วยต้นทุนของเรา” นายสามารถ กล่าว
นอกจากนี้ HEMP ยังมีพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก รวมทั้ง University of Kentucky ประเทศอเมริกา ในการนำ CBD ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพคนและสัตว์ อีกทั้งด้านการสกัดที่มีคุณภาพ และมาตรฐานระดับโลกที่สามารถส่งออกได้ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานจะเทิร์นอะราวนด์ พลิกกลับมีกำไรสุทธิ หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจและปรับโครงสร้างการจัดการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ โดยธุรกิจยาคาดการณ์จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตภัณฑ์กัญชง คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากสามารถต่อยอด และขยายธุรกิจต่างๆ ไปสู่สากลได้