"เอ็น.ดี.รับเบอร์"ไตรมาสแรกมีรายได้ 202.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.97% จากปีก่อนทำได้ 200.91 ล้านบาท คาดผลงาน Q2/65 ฟื้นตัวหากสงครามคลี่คลายลง เน้นกลยุทธ์ขยายตลาดกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง (High Margin) และลดต้นทุนเพื่อรักษาอัตรากำไร พร้อมยืนเป้ารายได้ปีนี้ 900-1,000 ล้านบาท เผยบริษัทย่อย (อีทราน) เร่งเดินเครื่องผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า คาดสิ้น Q2/65 ผลิตได้ประมาณ 550 คัน
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 202.86 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 200.91 ล้านบาท และมีผลขาดทุนเล็กน้อย 0.31 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ภาวะของต้นทุนขยับขึ้นมาก ส่งผลให้ต้นทุนของสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้พยายามบริหารจัดการด้านต้นทุนอย่างเต็มความสามารถ และสามารถรับมือผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นได้ดี จึงทำให้ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังสามารถทรงตัวได้ดีในสถานการณ์เช่นนี้
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 ว่า บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การตลาด โดยลดโปรโมชันต่างๆ ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไรขั้นต้นสามารถขยับเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าเมื่อสถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซีย-ยูเครนคลี่คลายลงจะทำให้ราคาพลังงานและวัตถุดิบต่างๆ ลดลงกลับมาสู่ภาวะปกติ และบริษัทฯ จะสามารถกลับมามีกำไรได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี ในช่วงภาวะวิกฤตนี้บริษัทฯ ได้เร่งในการลดต้นทุนด้านอื่นๆ เพื่อพยามยามรักษาอัตรากำไรไว้ให้ได้
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 900-1,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การดำเนินงานจะเน้นกลยุทธ์ขยายตลาดกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง (High Margin) นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้เป็นระบบ Automation โดยการพัฒนาการออกแบบเครื่องจักรใหม่ และปรับปรุงเครื่องจักรเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
"แผนกลยุทธ์เราจะเน้นกลยุทธ์ขยายตลาดกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เพื่อรักษารายได้ให้ได้ตามแผน และคุมต้นทุนให้มีผลกระทบให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยคาดว่าเมื่อต้นทุนเริ่มลดลงจะทำให้บริษัทสามารถกลับมาทำกำไรได้จากตลาดที่สามารถรักษาไว้ในช่วงนี้" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวถึงแผนธุรกิจของบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด ETRAN (NDR ถือหุ้นในสัดส่วน 35%) ว่า คาดว่าถึงสิ้นไตรมาส 2/2565 อีทรานจะมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตออกมาแล้วประมาณ 550 คัน และจะเริ่มผลิตล็อตต่อไปในช่วงประมาณเดือนสิงหาคม โดยบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าผลิตในปีนี้ที่ประมาณ 5,000 คัน