xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนแห่เทขายหุ้น กด SET INDEX ร่วง -15.15 จุด จับตาเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย-บาทอ่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง -15.15 จุด โบรกฯ ชี้นักลงทุนแห่เทขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุมเฟด ที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง มองแนวโน้มวันพฤหัสบดีนี้ (5 พ.ค.) ตลาดกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังหยุดวันฉัตรมงคล คาดมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น มองแนวต้าน 1,670 จุด แนวรับ 1,650 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 3 พ.ค.2565 ปรับตัวลดลง -15.15 จุด หรือกว่า -0.91% โดยปิดตลาดที่ 1,652.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 67,070.07 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนปรับตัวลงแรงช่วงท้ายตลาด โดยในระหว่างวัน SET INDEX ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,668.54 จุด ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,649.50 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 338 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 371 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,509 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,185.89 ล้านบาท ส่วนบัญชี บล.ซื้อสุทธิกว่า +585.05 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +63.51 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,834.45 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,036.96 ล้านบาท ปิดที่ 117.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,290.15 ล้านบาท ปิดที่ 12.20 บาท ลดลง 0.10 บาท
3.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,271.27 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,266.96 ล้านบาท ปิดที่ 212.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,232.39 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCB ปิดที่ 117.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.17%
2.KKP ปิดที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.04%
3.TISCO (XD)ปิดที่ 91.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 0.83%
4.MAJOR ปิดที่ 21.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 2.93%
5.HANA ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.11%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 212.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.40%
2.PTTEP ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.66%
3.CENTEL ปิดที่ 44.25 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 4.84%
4.TQM ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 4.02%
5.KBANK ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.31

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,236.62 จุด ลดลง -14.00 จุด หรือ -0.62% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 979.01 จุด ลดลง -4.55 จุด หรือ -0.46% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 646.73 จุด ลดลง -23.15 จุด หรือ -3.46%

ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนหุ้นในเดือน พ.ค.นี้ แนะนำให้รอซื้อที่แนวรับแรกของดัชนีที่ระดับ 1,630 จุด ส่วนแนวรับสำคัญเดือนนี้อยู่ในช่วง 1,580-1,600 จุด โดยคาดว่าตลาดหุ้นถูกกดดันจาก 6 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ทั้งปัญหาเงินเฟ้อสูง ค่าเงินบาทอ่อน โบรกเกอร์เตรียมปรับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รองรับผลกระทบต้นทุนที่สูงขึ้นจากน้ำมันดีเซลขยับ และแรงขายต่างชาติหลังซื้อสุทธิกว่า 1.2 แสนล้านบาท

ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index ปิดปรับตัวลงเนื่องจากแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนทราบผลประชุม FOMC ของเฟดคืนวันที่ 4 พ.ค.2565 โดยกลุ่มที่อ่อนตัวลงคือ พลังงาน สื่อสาร ค้าปลีก และไฟแนนซ์ ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นคือ ขนส่ง ปิโตรเคมี

ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง รับแรงขายทยอยลดความเสี่ยงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จากการพิจาณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี (Bond yield) ปรับตัวขึ้นเกือบ 3% กดดันตลาดหุ้น และยังมีแรงขายหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กออกมากดดันดัชนีค่อนข้างมากในวันนี้ แม้ว่าวอลลุ่มการซื้อขายจะไม่มาก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค.) จะปิดทำการอีก 1 วัน ทำให้นักลงทุนอาจจะขายปรับลดความเสี่ยงของพอร์ตออกมาก่อน และรอดูปัจจัยการประชุมเฟดในคืนวันนี้และพรุ่งนี้ อีกทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่ายังเป็นกดดันต่อตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน ด้านตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ส่วนมากปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นที่เปิดเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดี (5 พ.ค.) ยังคงต้องดูการประชุมเฟดที่จะออกมาว่าเป็นอย่างไร และการส่งสัญญาณถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปอย่างไร ซึ่งมองว่าหากไม่มีปัจจัยออกมาเซอร์ไพรส์ และเป็นไปตามที่ตลาดคาด คาดว่าดัชนีอาจจะรีบาวนด์แกว่งขึ้นมาได้ โดยให้แนวต้าน 1,670 จุด แนวรับ 1,650 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น