xs
xsm
sm
md
lg

เลิก “Test and Go” PF คาดอัตราพักโรงแรมพุ่ง 70% หวังอินเดีย-ตะวันออกกลางชดเชยจีน-รัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-19 เมษายน 2565 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 646,812 คน ซึ่งมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในปี 2564 ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการและปรับมาตรการตรวจสอบการเดินทางเข้าประเทศไทยใหม่ เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจสำคัญที่สร้างรายรายได้เข้าประเทศ

โดยล่าสุด สบค.ได้ประกาศยกเลิก Test and Go นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไทย แต่ให้แสดงหลักฐานการรับวัคซีนตามเกณฑ์ โดยลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass และหลักฐานการทำประกันโดยลดวงเงินประกันจาก 20,000 ดอลลาร์ เป็น 10,000 ดอลลาร์ และให้ยกเลิกการตรวจ RT-PCR เมื่อถึงไทย เปลี่ยนมาใช้วิธีการตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก หากพบเชื้อให้เข้าสู่กระบวนการตามประกันภัย ส่วนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบโดสตามเกณฑ์ ให้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass แสดงหลักฐานการจองห้องพัก และหลักฐานการทำประกัน โดยยื่นหลักฐานการตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางถึงประเทศไทย และให้ตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565

การประกาศยกเลิก Test and Go ส่งผลบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมในทันที ซึ่งจากการสำรวจความเห็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหลายแห่ง พบว่า ธุรกิจโรงแรมเริ่มตื่นตัวและเตรียมความพร้อมรองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในปีนี้กันอย่างคึกคัก

ศานิต อรรถญาณสกุล
นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า การยกเลิก Test and Go นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง สังเกตได้จากยอดการจองห้องพักโรงแรมขนาดใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมภายใต้บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ในประเทศซึ่งให้บริการโรงแรม 5 แห่ง ภายใต้การบริหารงานโดยกลุ่มแมริออท และไฮแอท ประกอบด้วย เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท รอยัล ออคิด เชอราตัน ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา และเชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า ขณะนี้มียอดจองห้องพักเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมียอดจองห้องพักล่วงหน้าเข้ามาถึง 70% ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่จองห้องพักในโรงแรมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่จองห้องพักในช่วง 2 ปีก่อนแต่ต้องเลื่อนการเข้าพักออกไป เพราะผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ หลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศและเตรียมยกเลิก Test and Go ทำให้นักท่องเที่ยวที่ชะลอการเข้าพักในประเทศไทยในช่วง 2 ปีก่อนกลับมาจองห้องพักและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้ง นอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวแล้ว กลุ่มนักลงทุน และนักธุรกิจ รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าจัดสัมมนาที่เคยจองห้องพักไว้ในช่วง 2 ปีก่อนก็กลับมาเข้ามาจองใช้ห้องพักในโรงแรมต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย อย่างนักท่องเที่ยวชาวจีน และรัสเซียนั้นคาดว่าจะยังไม่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ที่เข้ามาทดแทนโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และนิยมเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นในทุกๆ ปี ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงในขณะนี้เป็นอีกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศเอเชียที่เริ่มกลับมาเที่ยวประเทศไทยแล้ว อย่างเช่นนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังคงเป็นกลุ่มเดิมที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย คือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์

“กลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันออกกลางที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นน่าจับตามองคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจากดูไบ กาตาร์ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรบตัวสูง ซึ่งต้องการเปิดทางท่องเที่ยวและพักผ่อนในต่างประเทศ ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ที่น่าจับตาคือกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนิยมเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยได้ฟื้นสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”


นายศานิต กล่าวว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวขณะนี้ พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องและมีการจองห้องพักเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวชัดเจน เช่น เมืองพัทยาและภูเก็ต ซึ่งทั้ง 2 เมืองนี้พบว่ามีอัตราการจองห้องพักปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีการเปิดประเทศ ขณะเดียวกัน ดีมานด์จองห้องพักมีการขยายตัวดีมาก โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นดีมานด์จากนักท่องเที่ยว และกลุ่มนักธุรกิจ โดยกลุ่มนักธุรกิจจะเป็นกลุ่มที่มีการลงทุนหรือดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่จะผ่านมายังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้เนื่องจากติดปัญหาการ ล็อกดาวน์ประเทศ แต่หลังประเทศไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติให้เดินทางเข้ามาในประเทศได้ ทำให้นักธุรกิจเหล่านี้กลับเข้ามาติดต่อธุรกิจในประเทศไทยอีกครั้ง

นอกจากกลุ่มนักธุรกิจที่ลงทุนในประเทศไทยอยู่ก่อนหน้าจะกลับเข้ามาติดต่อเจรจาและดูแลธุรกิจแล้ว ในส่วนของกลุ่มนักธุรกิจที่สนใจจะเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ ทิศทางการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวส่งผลให้ภาคธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 กลับมาฟื้นตัวและขยายตัวได้ดีเพิ่มมากขึ้น จากแนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป และในช่วงไตรมาสที่ 3-4 น่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่น่าจับตาคาดการณ์ว่าจะเป็นแรงกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยได้ดี คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียและตะวันออกกลาง ซึ่งจะส่งผลให้ไตรมาสที่ 2 นี้ตลาดการท่องเที่ยวและธุรกิจการโรงแรมมีความคึกคักเพิ่มมากขึ้น

"กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นและที่น่าจับตามากคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและชาวตะวันออกกลาง โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียนั้นเป็นกลุ่มที่น่าจับตามาก เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 น้อยมาก ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันออกกลางนอกจากจะมีซาอุดีอาระเบียที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่แล้ว กลุ่มนักท่องเที่ยวเดิมยังสนใจกลับเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากประเทศไทยได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้อย่างมาก"


นายศานิต กล่าวว่า ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลังจากที่ยกเลิกมาตรการ Test and Go นั้น เชื่อว่าปัญหาและความกังวลจากประเด็นนี้เริ่มลดน้อยลงเนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อโอมิคอรนไม่รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาทุกๆ ประเทศมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ขณะที่ในประเทศไทยเองประชาชนมีการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวนมาก และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อัตราการติดเชื้อในประเทศมีปริมาณที่ลดลง ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดน้อยลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องระมัดระวังในช่วงครึ่งหลังของปีนี้โดยเฉพาะช่วงที่การท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวไปพร้อมพร้อมกับภาคธุรกิจโรงแรมจะทำให้ในภาคธุรกิจบริการต่างๆ มีความต้องการบุคลากรเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมเกิดการชะงักงันจากการปิดประเทศในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หลังจากที่การท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมกลับมาฟื้นตัวจะทำให้ภาคธุรกิจบริการต่างๆ ต้องการบุคลากรเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้เกิดการขาดแคนบุคลากรในภาคธุรกิจดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในวงกว้างเนื่องจากส่งผลโดยรวมต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ไปถึงธุรกิจขนาดเล็กทั้งหมด

จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมทำให้ธุรกิจโรงแรมในเครือของ PF มีการเตรียมความพร้อมรองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 นี้ โดยการเตรียมความพร้อมดังกล่าวจะเน้นใน 3 เรื่องหลัก คือ 1.บริการด้านอาหาร ซึ่งจะมีการปรับให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพักและใช้บริการในโรงแรมมากขึ้น 2.การเตรียมความพร้อมด้านการดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มจัดการประชุมและสัมมนา และ 3.เตรียมความพร้อมด้านการบริการต่างๆ

“คาดว่าตั้งแต่ในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไปการท่องเที่ยวจะฟื้นชัดเจน และฟื้นตัวได้เต็มที่ในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยปัจจัยหลักที่ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวคือ ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศติดอันดับโลกและเป็นเป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ และได้เปรียบคู่แข่ง โดยคาดว่าในปีนี้การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้ในระดับ 70% ของสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19” นายชายนิด กล่าว

ชนินทร์ วานิชวงศ์
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การยกเลิกระบบ Test and Go และเปลี่ยนมาใช้การตรวจด้วยชุดตรวจ Antigentest kit หรือ ATK ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยไม่จำเป็นต้องกักตัวก่อนเดินทางเข้าประเทศและส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างมาก สำหรับช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจโรงแรมแม้จะยังทรงตัว แต่เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น
จากแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกระเตื้องกลับมาจากการท่องเที่ยวในประเทศ 
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานของบริษัทในช่วงเดือนมกราคม 2565 ตลาดรวมยังคงชะลอตัวเนื่องจากเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิคอรนมีการแพร่ระบาดอย่างหนักทำให้ประชาชนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคม สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มกลับมาดีขึ้น เนื่องจากประชาชนเริ่มเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นหลังจากที่พบว่าผลกระทบจากการติดเชื้อโอมิครอนไม่รุนแรงอย่างที่คิดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โรงแรมขนาดเล็กและขนาดกลางทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ไตรมาส 2 เป็นต้นมา สถานการณ์การท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังช่วงที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาในประเทศโดยเฉพาะหลังช่วงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตัวเลขการเข้าพักในโรงแรมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยกลุ่มโรงแรมที่ได้รับความนิยมมาก คือ กลุ่มโรงแรมขนาดเล็ก ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเป็นส่วนตัว และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว เช่น โรงแรมขนาดเล็กมีพื้นที่ติดหาดหรือใกล้หาด โดยในส่วนของ “ฮาบิแทท” นั้นอัตราการเข้าพักในช่วงเดือนเมษายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30-40% ทำให้นับตั้งแต่เดือนเมษายน อัตราการเข้าพักของโรงแรมอยู่ในระดับ 60-70% ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางท่องเที่ยวของคนในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น เพราะคลายกังวลจากปัญหาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาหลังจาก การเปิดประเทศกลุ่มที่น่าจับตามองและมาแรงที่สุดในช่วงนี้คือกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากประเทศจีนนั้นคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1-2 ปี ที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมา เพราะตราบใดที่จีนยังใช้นโยบายโควิด-19 ในประเทศเป็นศูนย์ การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่กลับมาไทย ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียคาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งที่จะเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากจีนและรัสเซียจะยังไม่เดินทางเข้ามาเนื่องจากติดปัญหาดังกล่าว แต่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวในเอเชีย ยุโรปที่เข้ามาทดแทนได้ เช่น.นักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดีย

“สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดียนั้นบริษัทมีการติดต่อผ่านเอเยนซีเพื่อดึงให้กลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาพักที่โรงแรมของบริษัทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นตลาดที่น่าสนใจเพราะมีขนาดใหญ่ และมีอัตราการขยายตัวที่น่าจับตา”


นายชนินทร์ กล่าวว่า สำหรับตลาดรวมโรงแรมที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นนี้จะส่งผลให้การจ้างงานในระบบธุรกิจโรงแรมปรับตัวดีขึ้นไปด้วย ซึ่งในประเด็นนี้อาจจะทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจบริการและโรงแรมในช่วงไตรมาส 3-4 เนื่องจากทุกๆ โรงแรมจะเริ่มกลับมาทำตลาดทำให้ความต้องการจ้างงานพนักงาน หรือบุคลากรด้านการบริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากเดิมที่ธุรกิจโรงแรมหยุดชะงักไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทิศทางการฟื้นตัวของตลาดโรงแรมคาดว่าตลาดโรงแรมระดับบนจะเริ่มฟื้นตัวให้เห็นชัดเจนก่อนกลุ่มตลาดระดับล่างและกลางขณะที่โรงแรมขนาดเล็กที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะมีโอกาสขยายตัวกลับมาดีขึ้นเป็นกลุ่มถัดไป

“การกลับมาขยายตัวของการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมในปีนี้บริษัทคาดหวังว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวได้ในระดับ 20% ของช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศภายในปีนี้ประมาณ 8 ล้านคน จากช่วงปกติที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 40 ล้านคนต่อปี ขณะที่ในส่วนของผลการดำเนินงานบริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 100% จาก 2 ปีที่ผ่านมา”

ประกายเพชร มีชูสาร
ด้าน น.ส.ประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดโรงแรมภูเก็ตนั้นหากพิจารณาจากปริมาณห้องพักในโรงแรม พบว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 มีห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น 1,180 ห้อง จากการเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง ส่งผลให้ปริมาณห้องพักทั้งหมดของโรงแรมบนเกาะแห่งนี้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 43,000 ห้อง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการเข้าพักในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เพิ่มขึ้น 16.8% จาก 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน จากข้อมูลของ STR และภายในปี 2567 ปริมาณห้องพักโรงแรมในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้น 7.3% จากโรงแรมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 15 แห่ง รวมทั้งสิ้น 3,120 ห้อง


ทั้งนี้ ตลาดโรงแรมในภูเก็ตมีการปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น ความมั่นใจในการเดินทาง และนโยบายจากภาครัฐที่ส่งเสริมการเดินทางภายในประเทศ รวมถึงการปรับนโยบายการเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ทั้งนี้ นไตรมาส 1 ปีนี้ อัตราการเข้าพักโรงแรมในภูเก็ตกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้อัตราการเข้าพักในช่วงโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 60-90% สำหรับโรงแรมที่แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ทำการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ แต่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ RevPAR ยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากเจ้าของโรงแรมยังคงเสนอแพกเกจราคาพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเข้าพัก

“เนื่องจากจีนยังคงปิดพรมแดน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเป็นชาวยุโรปชาวอเมริกัน และชาวรัสเซียที่ตกค้างอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุดในจีนอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางออกจากจีนและเข้าสู่ประเทศไทยนั้นเป็นไปได้ยาก”



กำลังโหลดความคิดเห็น