วายแอลจีเปิดตัวแอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ซื้อขายทองคำแท่งแอปพลิเคชันแรกในไทย ที่เทรดทองคำผ่าน 5 สกุลเงินหลัก ทั้งดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท เพิ่มช่องทางการทำกำไร พร้อมลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนสามารถเลือกเทรดทองได้มากกว่าหนึ่งสกุลเงิน ส่วนการเคลื่อนไหวราคาทองคำมองกรอบแนวต้าน 1,897-1,915 แนวรับ 1,873-1,854 ราคาทองคำในประเทศ 30,250-31,250 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า วายแอลจีได้เปิดตัวแพลตฟอร์มลงทุนทองคำผ่านแอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง 5 สกุลเงินหลัก ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท โดยวายแอลจีได้แนวคิดมาจากปีที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศที่เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงเกือบ 4% เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ดังนั้น หากนักลงทุนสามารถซื้อขายได้ในหลากหลายสกุลเงินจะช่วยเพิ่มช่องทางทำกำไรให้นักลงทุนได้มากขึ้น
อีกทั้งแอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ยังมีความโดดเด่นด้านความสะดวกสบายโดยนักลงทุนสามารถตั้งราคาซื้อขายได้ล่วงหน้า ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มต้นลงทุนเพียง 1 ออนซ์ หรือ 31.104 กรัม (ประมาณ 2 บาททอง หรือประมาณ 60,000 บาท) สามารถเข้าถึงได้สะดวกผ่านทุกช่องทางออนไลน์ ทั้งทางเว็บไซต์เเละแอปพลิเคชัน ทั้ง Android/IOS นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ยังเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจแก่นักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมย้อนหลังได้ด้วยตนเอง ทั้งธุรกรรมการฝาก-ถอนเงิน ฝาก-ถอนทอง ซื้อ-ขาย และการรับ-ส่งทองคำ เพิ่ม ความปลอดภัยในการจัดส่งสินค้าผ่านระบบการยืนยันตัวตนผ่าน การใช้รหัส OTP รัดกุม ปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว มีการแจ้งเตือนการทำผ่านโทรศัพท์มือถือทุกครั้งที่ทำธุรกรรม เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้นักลงทุน และสำคัญที่สุดสามารถกำหนดวันเวลาในการรับส่งทองได้ด้วยตนเอง
สำหรับการเปิดบริการแอปพลิเคชันนี้สอดคล้องกับปัจจัยทองคำในประเทศที่แม้จะเคลื่อนไหวตามราคาในตลาดโลกแต่ต้องขึ้นกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ดังนั้น การเปิดให้ลงทุนได้ในหลากหลายสกุลเงินจึงทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของค่าเงิน โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ค่าเงินบาทยังมีความผันผัวน และมีความเสี่ยง เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้น หากนักลงทุนทั่วโลกทำการเทรดขายสินทรัพย์เสี่ยง และอาจจะเข้ามาลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งทองคำเป็นทางเลือกหนึ่งในนั้น ส่วนราคาทองคำในประเทศ หากลงทุนสกุลเงินบาทเพียงอย่างเดียวอาจจะได้รับความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ซึ่งความผันผวนของค่าเงินนั้นจะผกผันความเสี่ยงไปตามค่าเงินบาทเพียงเท่านั้น แต่หากนักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงเพิ่มด้วยการลงทุนทองคำจากหลายสกุลเงิน จะทำให้อุดช่องว่างอัตราการแลกเปลี่ยนค่าเงินที่ผันผวน และเพิ่มโอกาสการทำกำไรได้
ตามสถิติของ Gold Price and annual return in key currencies (%Chg) ในช่วงปี 2012-2021 พบว่ามีถึง 4 ปี จาก 10 ปี ที่ราคาทองคำสกุลเงินบาทต่อ 1 ทรอยออนซ์ ให้ผลตอบแทนที่แย่กว่า (Worst Performance : W) เมื่อเทียบกับราคาทองคำที่เป็นสกุลอื่นๆ ทั้งสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ สกุลเงินหยวน และสกุลเงินยูโร ดังนั้น ความผันผวนในเรื่องของสกุลเงินจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนสามารถใช้มาเป็นเกณฑ์ในการการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุนในทองคำได้
ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงนี้ ราคาอยู่ในช่วงของการปรับฐานลง หลังจากทดสอบกรอบบนใกล้โซนแนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ทำให้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังในการถือครองสถานะทองคำ จึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นลงในกำไรระยะสั้นขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยมีกรอบแนวต้านแรกที่ 1,897-1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีจุดชะลอขายหากราคาผ่าน 1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับจุดซื้อควรรอการตั้งฐานของราคาบริเวณแนวรับที่ 1,873-1,854 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำในประเทศมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 30,250-31,250 บาทต่อบาททองคำ