ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 800 จุดในวันอังคาร (26 เม.ย.) รวมถึงดัชนี Nasdaq ที่ดิ่งลงกว่า 500 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,313.14 จุด ลดลง 386.97 จุด หรือ -1.45%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,723.46 จุด ลดลง 211.25 จุด หรือ -1.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,866.82 จุด ลดลง 19.61 จุด หรือ -0.68%
ปีเตอร์ บูควาร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทบลีคลีย์ แอดไวเซอรี กรุ๊ป กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น โดยความกังวลเหล่านี้รวมถึงสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียเตือนว่า วิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครนอาจลุกลามกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์
นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. รวมทั้งผลกระทบจากการที่จีนยังคงล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจ และล่าสุดมีการปิดกั้นพื้นที่บางส่วนของกรุงปักกิ่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์ว่า จีนอาจจะล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งในไม่ช้านี้
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจีนยังกดดันความเชื่อมั่นของตลาด โดยกรุงปักกิ่งได้เร่งขยายวงตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 22 ล้านคน ทำให้มีการคาดการณ์ว่า กรุงปักกิ่งจะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในลักษณะเดียวกับที่นครเซี่ยงไฮ้เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ การร่วงลงของดัชนี Nasdaq และทำระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563 ยังกดดันหุ้นเทคโนโลยีในภูมิภาคช่วงเปิดตลาดเช้านี้ โดยหุ้นซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ร่วงลง 2.8% หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ร่วงกว่า 1% ขณะที่หุ้นคราฟตัน ดิ่งลง 3.62%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่น่าจับตาวันนี้ ประกอบด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. ของเกาหลีใต้ และกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. ของจีน