โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวนด์ตามภูมิภาคระหว่างรอติดตามงบ Q1/65 กลุ่มพลังงาน ทิศทางการลงทุนของนักลงทุนเปลี่ยนมาที่กลุ่มหุ้นคุณภาพ และให้ปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า มองทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้านี้รีบาวนด์ได้เล็กน้อยตามดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคที่เช้านี้เปิดตลาดมาเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ เพื่อรอติดตามผลประกอบการของกลุ่มพลังงานที่จะทยอยออกมา
ทิศทางการลงทุนของนักลงทุนเปลี่ยนมาที่กลุ่มหุ้นคุณภาพ และให้ปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินเพื่อชะลอการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อ
พร้อมให้แนวต้านที่ 1,685 จุด และแนวรับ 1,670 จุด
ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.เคทีบีเอสที ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้อาจมี rebound แต่ยังอยู่ในโหมดของการปรับฐานอยู่ การล็อกดาวน์ของจีนเป็นตัวถ่วงหลักๆ ของตลาด สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ยังไม่ดีขึ้น ต่างชาติเข้าแทรกแซงด้านการทหารมากขึ้น ทำให้การเจรจาเกิดขึ้นได้ยาก ตัวแปรที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ การล็อกดาวน์ของจีน หากขยายวงอาจกระทบภาคเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก เนื่องจากจีนเป็นผู้ผลิต supply chain ใหญ่สุดของโลก ขณะที่ผู้นำจีนกำลังประเมินการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้ามีจะพอช่วยหนุนตลาดได้
ด้านเงินบาทที่อ่อนค่าลงเช้านี้มาที่ 34.09 บาท รอบนี้มองว่ามาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบปริมาณการส่งออก ยกเว้นการส่งออกที่เกี่ยวกับอาหารที่คาดจะยังดี
แม้ตลาดหุ้นไทยจะมีความแข็งแรงด้วยกำไรที่ยังดี แต่ปัจจัยลบภายนอกที่มีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จะถ่วงตลาดให้อยู่ในช่วงของการปรับฐาน การลงทุนในช่วงนี้จึงควรทำทั้งการขายทำกำไร และเลือกหุ้นเล่นสั้นๆ ตามข่าวหรือปัจจัยเฉพาะตัวไปก่อน และยังเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศอาจพลิกกลับมาขายหุ้น ควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง