xs
xsm
sm
md
lg

'เอพีฯ' เดินหน้า Q2 ขึ้น 11 โครงการ ค่า 1.6 หมื่นล้าน ประกาศ Brand Promise มอบชีวิตดีๆ ที่เลือกได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายสรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง
เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทย ต่อยอดพันธกิจ EMPOWER LIVING การประกาศคำมั่นสัญญาครั้งสำคัญกับ Brand Promise ‘ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้’ ตั้งเป้า ‘ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้’ ดันเอพีเป็นแบรนด์ที่ช่วยให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่เลือกเองได้ ผ่าน 3 มิติหลัก Happiness has no Blueprints - Innovation from you for you - Community of the Future ต่อยอดการจับมือกับ GDH ค่ายหนังอารมณ์ดี หลังภาพยนตร์เรื่อง ‘Fast & Feel Love’ ส่งแบรนด์เอพีเติบโตไปอีกสเต็ป พร้อมเดินหน้าเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุดที่ได้ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ และนัท-ณัฏฐ์ กิจจริต มาเป็น AP Brand Ambassadors นำเสนอมุมมองการสร้างความสุขให้ชีวิต ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “ที่ที่มีความสุข แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว” ย้ำเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดด้วยอสังหาริมทรัพย์เครือเอพีที่มากกว่า 16 แบรนด์ พร้อมส่งมอบความปรารถนา (Aspiration) ในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เพื่อให้ทุกนิยามความสุขที่ต้องการเกิดขึ้นได้จริงกับ 175 โครงการที่พร้อมขายทั่วไทย

นายสรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานกลยุทธ์แบรนด์องค์กร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอพี ไทยแลนด์ ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 31 โดยมี EMPOWER LIVING เป็นวิสัยทัศน์สำคัญในการดำรงอยู่ของเอพี ไทยแลนด์ และเพื่อเน้นย้ำถึงเจตจำนงในการดำเนินธุรกิจของเอพี ไทยแลนด์ บริษัทฯ จึงพร้อมประกาศคำมั่นสัญญา หรือ Brand Promise ภายใต้คำว่า “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” เพื่อเป็นการสื่อสารถึงวิสัยทัศน์ในระยะยาวของเอพี ไทยแลนด์ กับความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้สร้างและจัดหาสินค้าหรือบริการที่เกื้อหนุนให้ลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเอพี สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดีในแบบที่ต้องการด้วยตนเอง ผ่านทุกมิติของการดำเนินชีวิตทั้งในวันนี้และอนาคต

“ก้าวต่อไปของการสร้างแบรนด์เอพี ภายใต้วิสัยทัศน์ Empower Living ผมคิดว่าแบรนด์ที่ดีต้องมีจุดยืนทางสังคม หรือ Social Standpoint ชัดเจน ต้องกล้าที่จะพูดอะไรที่ใหม่เพื่อตอบโจทย์ หรือช่วยสังคมตามบริบทที่เกิดขึ้น ในวันที่สังคมรู้สึกว่ากำลังรออะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะรอให้โรคระบาดครั้งนี้จบลง รอให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลาย รอให้สิ่งที่เรียกว่าความสุขแบบเก่ากลับคืนมา ซึ่งหน้าที่ของแบรนด์ที่ดีควรสร้างคุณค่าและความหมายบางอย่างกับชีวิต มากกว่าการมุ่งขายของเพียงอย่างเดียว จึงเป็นต้นกำเนิด Brand Promise ใหม่ล่าสุดของเอพีภายใต้ประโยคที่ว่า “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ซึ่งเป็นชีวิตดีๆ บริบทใหม่ในปี 2022 คือชีวิตดีๆ ที่ลูกค้าเป็นคนเลือกเอง หน้าที่ของเอพี คือมอบสิ่งต่างๆ ให้ลูกค้าเลือกในสิ่งที่เขาอยากได้ด้วยตนเอง” นายสรรพสิทธิ์ กล่าวเสริม

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของแบรนด์เอพีกับการประกาศ Brand Promise อย่างเป็นทางการ โดย “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” จะถูกใช้เป็นแกนหลักในการสื่อสารถึงจุดยืนของแบรนด์เอพี ซึ่งนอกเหนือจากความมุ่งหวังที่จะให้ผู้บริโภครับรู้และเข้าใจในความหมายของวิสัยทัศน์ EMPOWER LIVING ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังต้องการสร้างภาพจดจำว่าแบรนด์เอพีเป็นแบรนด์ที่ช่วยเอ็มเพาเวอร์ให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่เลือกเองได้ โดยมีเป้าหมายใหญ่คือการนำพาแบรนด์เอพีไปสู่การครองอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลยุทธ์ในการนำพาแบรนด์เอพีให้เป็นแบรนด์ที่ช่วยเอ็มเพาเวอร์ให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่เลือกเองได้จะสะท้อนผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่


1.HAPPINESS HAS NO BLUEPRINTS ตอบโจทย์ทุกความปรารถนาในการใช้ชีวิต ที่มากกว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่คือการสร้างมิติใหม่ในการดำเนินชีวิต (New layout of Life) ให้เกิดขึ้น ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ความสุขไม่มีแบบฉบับตายตัว ทุกคนสามารถที่จะเลือกสร้างความสุขในแบบที่ตนเองต้องการ ผ่าน 16 แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ในเครือเอพี ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ที่ครอบคลุมครบทุกเซกเมนต์มากที่สุด

“ไม่ว่าคุณจะมีวิถีชีวิตแบบไหน ชอบหรือหลงใหลในสิ่งใด คุณก็จะพบกับความสุขในแบบคุณจาก 16 แบรนด์ของเอพี ซึ่งออกแบบตาม Demographic และ Psychographic โดยเฉพาะอย่างหลังเรามองว่าคือความปรารถนา หรือ Aspiration ของการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ดังนั้น 16 แบรนด์ของ เอพีจึงมีความแตกต่าง และลึกซึ้งมากกว่าหน้าตาหรือแบบบ้านที่ไม่เหมือนกัน เพราะตั้งแต่วินาทีที่ตื่นนอนจนวินาทีที่นอนหลับ คุณได้ใช้ชีวิตใน Aspiration แบบที่คุณต้องการ”

2.INNOVATION FROM YOU FOR YOU นวัตกรรมดีไซน์จากคุณเพื่อคุณ กระบวนการสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ ด้วยการปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมีระบบคิดตามหลัก DESIGN THINKING ที่ให้ความสำคัญกับการค้นหา Unmet Need ของลูกค้า และทำความเข้าใจด้วยวิธี Empathy Design Approach เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ Aspiration หรือความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าที่มีความหลากหลายได้อย่างสูงสุด

ทั้งในมิติการมอบพื้นที่ความสุขที่เรียกว่า “บ้าน” ตลอดจนการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง และที่สำคัญต้องไม่ยากต่อการดูแลรักษาในอนาคต ตลอดจนการพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ภายในแอปพลิเคชัน SMART WORLD ที่พร้อมเอ็มเพาเวอร์ให้การใช้ชีวิตในบ้านเป็นเรื่องง่าย ที่เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

3.COMMUNITY OF THE FUTURE การร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเอ็มเพาเวอร์สังคม ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตที่มากกว่าการส่งมอบความสุข ส่งมอบชีวิตดีๆ ในฐานะดีเวลลอปเปอร์ให้ลูกบ้านเอพีเท่านั้น มาสู่การร่วมสร้างคอมมูนิตีที่ดีให้เกิดขึ้นในชุมชน และสุดท้ายคือการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบสังคมให้ดีขึ้น ผ่านแคมเปญเพื่อสังคมต่างๆ ที่เอพีทำมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น AP Unusual Football Field สนามฟุตบอลรูปทรงฉีกแนว ต้นแบบสนามฟุตบอลแนวคิดใหม่ย่านชุมชนคลองเตย ที่ได้รับรางวัล Grand Prix จากเทศกาลเมืองคานส์ และได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ (TIME magazine) ให้เป็น 1 ใน 25 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งปี หรือแคมเปญ Space Scholarship โดยเอพีมอบทุนการศึกษาเป็นตารางเมตร ซึ่งหมายถึงการมอบที่พักอาศัยแก่นักเรียนต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เป็นต้น


“ในฐานะดีเวลลอปเปอร์ เราคิดอยู่ตลอดเวลาว่า นอกจากเราจะมีหน้าที่สร้างความสุขให้ลูกค้าแล้ว เราต้องมีวิชันที่จะทำให้สังคมด้วย ซึ่งผมคิดว่าหน้าที่ของแบรนด์ที่ดีจะต้องร่วมสร้าง หรือมีส่วนร่วมผลักดันให้สังคมเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป”

ทั้งนี้ เพื่อสร้างภาพจดจำว่าแบรนด์เอพีเป็นแบรนด์ที่ช่วยเอ็มเพาเวอร์ให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่เลือกเองได้ บริษัทฯ จึงเริ่มต้นด้วยการร่วมมือกับทาง GDH สนับสนุนภาพยนตร์ไทยคุณภาพ เรื่อง FAST & FEEL LOVE ซึ่งคีย์สำคัญของการสื่อสาร Brand Promise “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ผ่านแพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่างภาพยนตร์นั้น เพื่อเอ็มเพาเวอร์ให้ผู้ชมทั่วประเทศได้สัมผัสถึงนิยามของความสุขที่ไม่จำเป็นต้องมีแบบแผน ความสุขที่ทุกคนสามารถเลือกที่จะสร้างให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง จากนั้นยังได้ต่อยอดเรื่องราวจากภาพยนตร์มาสู่แคมเปญ “ที่ที่มีความสุข แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว” โดยได้ญาญ่า- อุรัสยา เสปอร์บันด์ และนัท-ณัฏฐ์ กิจจริต มาเป็น AP Brand Ambassadors นำเสนอมุมมองการสร้างความสุขให้ชีวิต ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุดของเอพี เพื่อจุดประกายให้ทุกคนในสังคมรับรู้ว่าคุณสามารถ “เลือก” ที่จะให้ความสุขเกิดขึ้นที่บ้านได้ทุกวัน ซึ่งเอพีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักคิดเล็กๆ ที่สื่อสารในหนัง TVC เรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เอ็มเพาเวอร์ ให้ทุกคนเลือกที่จะสร้างมุมมองความสุขได้ด้วยตัวเอง

“ผมคิดว่าความสุขในแบบที่สังคมเลือกมาให้ ต่อให้สมบูรณ์แบบแค่ไหน อาจจะไม่เต็มเปี่ยม หรือปริ่มใจเท่าความสุขที่เราเป็นคนเลือกเอง ซึ่งถึงแม้สังคมจะมองว่าความสุขที่คุณเลือกนั้นไม่ครบ ไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม แต่ถ้าหากเราเลือกมันเอง มันคือความสุขที่เต็มเปี่ยม และปริ่มใจที่สมบูรณ์ในแบบเรา นี่คือสิ่งที่เอพีอยากบอกว่า ความสุขในการใช้ชีวิตที่สำคัญนั้นเป็นความสุขที่คุณต้องเลือกเอง” นายสรรพสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ เอพี ไทยแลนด์ พร้อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดด้วยแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ในเครือ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด และทาวน์โฮม ที่มากถึง 16 แบรนด์ กับแผนปูพรมทั่วไทยกว่า 175 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 136,000 ล้านบาท


ประสบความสำเร็จ ไตรมาสแรกยอดขายโต 63%

นายสรรพสิทธิ์ กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 65 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมได้ทั้งสิ้นมูลค่า 12,959 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 63% (ยอดขายไตรมาส 1 ปี 2564 เท่ากับ 7,967 ล้านบาท) แบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 10,798 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมมูลค่า 2,161 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 220%

โดยในไตรมาสแรก บริษัทฯ เปิดตัวไปแล้วทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่า 9,240 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวแบรนด์ CENTRO 4 โครงการ มูลค่า 5,120 ล้านบาท ทาวน์โฮม จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 2,920 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 1,200 ล้านบาท

สินค้ารอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 1 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 41,764 ล้านบาท เป็นแนวราบมูลค่า 22,366 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม มูลค่า 19,398 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้รวม (รวม 100% JV) ได้ตามเป้าหมาย 47,000 ล้านบาท

ลุยต่อ Q2 เปิด 11 โครงการใหม่กว่า 1.6 หมื่นล้านบาท


สำหรับแผนการดำเนินงานไตรมาส 2 มีแผนเปิดตัวใหม่ทั้งสิ้น 11 โครงการ มูลค่า 16,270 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่า 3,400 ล้านบาท ทาวน์โฮม จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 7,270 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 5,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ แผนธุรกิจตลอดทั้งปี 65 บริษัทฯ จะพัฒนาโครงการใหม่รวมจำนวน 65 โครงการ มูลค่าประมาณ 78,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 55 โครงการ มูลค่าประมาณ 60,800 ล้านบาท คอนโดมิเนียมจำนวน 5 โครงการ มูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 47,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น