xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีฯ ตั้งเป้าสินเชื่อกลุ่มธุรกิจข้ามชาติโต 3.4% ชูจุดเด่นผนึกกำลังเครือข่าย MUFG ทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) โดยกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ประกาศความสำเร็จเป็นผู้นำธนาคารพันธมิตรที่กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นไว้วางใจมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี พร้อมเดินหน้าสืบสานพันธกิจในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอันดับหนึ่งในใจของกลุ่มลูกค้าบรรษัทข้ามชาติ และเผยกลยุทธ์ในปี 2565 รุก EEC พร้อมขยายศักยภาพเชื่อมต่ออาเซียน มุ่งสร้างความร่วมมือกับ MUFG ส่งเสริมการลงทุนในสตาร์ทอัปไทย และทำงานกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกเพื่อขยายโอกาสให้ลูกค้าด้วยการนำเสนอข้อมูลทางธุรกิจ กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่กรุงศรีมีความแตกต่างและเชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจและเศรษฐกิจไทย
นายโยชิยูกิ โฮริโอะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เราครองความเป็นผู้นำในฐานะธนาคารพันธมิตรภายใต้เครือข่าย MUFG ที่กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นไว้วางใจมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี นับเป็นจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ที่เราให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ และยังมีความเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดีทั้งในไทย และการขยายเครือข่ายในระดับโลก พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทั้งบริการทางการเงินและบริการที่ช่วยเพิ่มมูลค่าต่างๆ เช่น การจับคู่ทางธุรกิจ นอกจากนี้ การผสานพลังกับ MUFG ช่วยให้เรามีเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมถึง 50 ประเทศ พร้อมทั้งเครือข่ายในอาเซียน 9 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และพม่า เรียกได้ว่าเรามีความพร้อมที่จะเชื่อมต่อกลุ่มบริษัทญี่ปุ่น บรรษัทข้ามชาติ และบริษัทไทย และด้วยเครือข่ายระดับโลก เราจึงสามารถส่งมอบโซลูชันแก่ลูกค้าธุรกิจที่สนใจจะขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศได้”

นายโยชิยูกิ โฮริโอะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ยังประสบความสำเร็จในการนำเสนอความแตกต่างในการให้บริการและผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าด้วยความร่วมมือกับ MUFG ได้แก่ ความสำเร็จในการออกพันธบัตรสีเขียวและสินเชื่อสีเขียวเป็นครั้งแรกสำหรับลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทยแก่บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงร่วมมือกับ MUFG และ MUFG Innovation Partners ในการสนับสนุนการลงทุนในสตาร์ทอัปไทยให้เติบโตและขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ

ด้านการสนับสนุนกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ หรือ Business Matching ระหว่างลูกค้าบริษัทไทย ญี่ปุ่น และเครือข่าย MUFG ในอาเซียนอย่างต่อเนื่องในปี 2564 ที่ผ่านมา มีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจถึง 473 คู่ ร่วมมือกับ Mitsubishi UFJ Research & Consulting (MURC) ในการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจในการวิจัยการตลาดและการให้บริการที่ปรึกษาอื่นๆ ซึ่งกรุงศรีประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการลงทุนในประเทศอินเดียของลูกค้าธุรกิจกลุ่มวัสดุก่อสร้างส่งเสริมการลงทุนใน EEC ด้วยการนำเสนอโซลูชันทางการเงินและการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าสำนักงาน EEC รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ นำมาซึ่งความสำเร็จในการลงทุนของลูกค้าธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ใน EEC

"เรามอง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งความท้าทาย ธุรกิจชะงักชะลอการตัดสินใจลงทุน แต่ในครึ่งหลังของปีนี้ มองว่าแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเฉพาะการท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศ รวมถึงภาคการส่งออกที่กลับไปสู่ระดับการเติบโตก่อนโควิดแล้ว แต่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่จากภาวะสงครามทำให้ราคาสินค้าบางประเภทสูงขึ้น จึงยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ยังได้รับผลกระทบอยู่"

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจปีนี้ ทางกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 3.4% และให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่ออาเซียนซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญของกรุงศรี โดยในปีนี้ กรุงศรีได้มีโครงการนำร่องเพื่อสนับสนุนและให้คำปรึกษาในการขยายธุรกิจสู่อาเซียนสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ในส่วนของ EEC นั้น เรามองว่า ยังมีโอกาสสำหรับลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติในการขยายธุรกิจสู่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกมากมาย นับตั้งแต่กรุงศรีได้เปิดสำนักงาน EEC กรุงศรีได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจของลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ และยังเป็นการต่อยอดโอกาสสำหรับลูกค้าทั้งลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น ลูกค้าบรรษัทข้ามชาติและลูกค้าธุรกิจไทยของกรุงศรีในการขยายธุรกิจในภูมิภาคต่อไป

“ในปี 2565 นี้ กรุงศรียังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และบริการใหม่ๆ แก่ธุรกิจต่างๆ ด้วยความเข้าใจลูกค้าอย่างถ่องแท้ เราจะส่งมอบธุรกิจและข้อมูลตลาดด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกและระดับประเทศ พร้อมนำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพแก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทยและอาเซียน ผ่านกิจกรรมสัมมนาและกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยส่วนของการเป็นที่ปรึกษาแก่ลูกค้า เราเน้นการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิประโยชน์ของการส่งเสริมการลงทุน เช่น เอกสิทธิ์จากการเป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาค พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น Foreign Business Act เพื่อสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถอันแตกต่างของกรุงศรีและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี เราจะช่วยขยายโอกาสและขับเคลื่อนการเติบโตของทั้งธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ ร่วมทั้งยังส่งผลดีต่อธุรกิจไทยในฐานะคู่ค้า และสำคัญที่สุดคือช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง”


กำลังโหลดความคิดเห็น