นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้วางพันธกิจที่ต้องการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินและชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อเปิดให้บริการด้านการเงินและการลงทุนที่หลากหลายผ่านบริการของแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท (Truemoney wallet) ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ลงทุนในกองทุนรวม การจองซื้อหุ้นกู้
ล่าสุด บริษัทได้จับมือกับพันธมิตร คือ เมอร์เคิล แคปปิตอล (Merkle Capital) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดการเงินลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ ในการให้บริการกลยุทธ์ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเปิดพอร์ตลงทุนคริปโตฯ (Cryptocurrency) ผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เป็นการเพิ่มโอกาสและสร้างทางเลือกในการกระจายการลงทุนของนักลงทุนมายังสินทรัพย์ดิจิทัลในแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้
การให้บริการของทรูมันนี่ และเมอร์เคิล แคปปิตอล จะตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล แต่มีเงินลงทุนหรือรายได้ไม่สูงมาก และไม่มีเวลาในการสลับสับเปลี่ยนการลงทุน เพราะคริปโตฯ มีการเปลี่ยนแปลงราคาตลอดเวลา ซึ่งทางเมอร์เคิล แคปปิตอล และทรูมันนี่ ได้สร้างแพลตฟอร์มการลงทุนในคริปโตฯ แบบมีผู้เชี่ยวชาญดูแลผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยใช้เงินลงทุนเพียงแค่ 3,000 บาท ก็สามารถลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผู้เชี่ยวชาญช่วยในการวางแผนรูปแบบและกลยุทธ์การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในแผนการลงทุนที่ทางเมอร์เคิล แคปปิตอล จัดเตรียมไว้ให้ตามความเสี่ยงที่เหมาะสม และใช้เวลาในการสมัครใช้บริการง่ายใน 5 นาที
จากรายงาน Digital 2022 Global Overview โดย We Are Social และ Hootsuite เมื่อเดือนมกราคม 2565 พบว่า คนไทยมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่อจำนวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ทอายุ 16-64 ปี สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่ 20.1% ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทเห็นถึงโอกาสในการนำบริการด้านการลงทุนคริปโตฯ เข้ามาในทรูมันนี่ วอลเล็ท
"เราคาดว่าบริการการลงทุนคริปโตฯ จะเข้ามาช่วยสร้างโอกาส และเติมเต็มการบริการของทรูมันนี่ให้ลูกค้าได้ครบวงจร ทำให้ทุกคนเข้าถึงการลงทุนในทุกรูปแบบ ตอบโจทย์คนที่มีเงินหรือรายได้ไม่มาก และไม่มีเวลาในการลงทุน เป็นการต่อยอดพันธกิจของทรูมันนี่และจะช่วยดึงดูดผู้ใช้ใหม่ๆ เข้ามายังแพลตฟอร์มของเราด้วย" นายธัญญพงศ์ กล่าว
นายอัคราเดช เดี่ยวพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับทรูมันนี่ในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มอีวอลเล็ทได้ โดยก่อนหน้านี้เมอร์เคิล เล็งเห็นว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่มีความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพียงแต่ยังไม่ได้เริ่มเนื่องจากไม่คุ้นเคยและคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ ทำให้ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร หรือคิดว่าไม่มีเวลาดูตลาดเพราะมูลค่าคริปโตฯ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในก้าวที่สำคัญในการขยายทางเลือกในการลงทุน พร้อมตอบสนองความต้องการของนักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนและปลอดภัย โดยได้รับการดูแลจากทีมงานของเมอเคิล ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมานาน ผ่านทางแพลตฟอร์มที่คนจำนวนมากเข้าถึงได้ง่ายอย่างทรูมันนี่ วอลเล็ท
"เมื่อผสานความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของเราเข้ากับเทคโนโลยี รวมถึงความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้งของทรูมันนี่ เราเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะสามารถทำให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น" นานอัคราเดช กล่าว
สำหรับรายละเอียดพอร์ตการลงทุนของพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัลที่บริหารโดยเมอร์เคิล แคปปิตอล มี 4 พอร์ตการลงทุนที่นักลงทุนสามารถเลือกได้ตามความสนใจไนการลงทุน ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท ที่คัดเลือกออกมาใน 4 ธีมการลงทุน ได้แก่
1.M-Bitcoin Alpha เป็นพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล Bitcoin ที่ถูกยกให้เป็น Digital Gold โดยลงทุนเต็มอัตรา (Fully Invested) เพื่อสะสมมูลค่าระยะยาว โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 3,000 บาท
2.M-Large เป็นพอร์ตการลงทุนที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสกุลเงิน และ Smart Contract Platform ที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม คัดกรองด้วย Merkle Framework เพื่อหาสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องให้นักลงทุนได้อย่างมั่นใจ โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 3,000 บาท
3.M-Metaverse เป็นพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse Ecosystem รวมไปถึง Platform ที่เกี่ยวข้องกับ Games, NFT และ Infrastructure ของ Metaverse ชั้นนำของอุตสาหกรรมและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 3,000 บาท
4.M-Blockchain เป็นพอร์ตการลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Blockchain Infrastructure และ Smart Contract Platform และ ETH, SOL, LUNA และเทคโนโลยี Layer 1, Layer 2 ชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่กำลังกินส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 3,000 บาท
ทั้งนี้ หากมีเหรียญใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆ เกิดขึ้น ทางเมอร์เคิล แคปปิตอล จะมีการดูแลปรับเปลี่ยนด้วย Asset allocation ให้พอร์ตการลงทุนตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดผลตอบแทนลูกค้าอย่างเหมาะสมที่สุด และในปัจจุบันเมอร์เคิล แคปปิตอล ได้มีการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้ลูกค้ามูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านบาท
น.ส.ณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับเมอร์เคิล แคปปิตอล ในการเปิดพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตฯ ที่มีการบริหารจัดการจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นทีมงานของเมอร์เคิล แคปปิตอล ที่คอยดูแลและบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้ นับว่าเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในการกระจายการลงทุนให้นักลงทุนรายย่อยที่ใช้บริการแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท และเป็นการต่อยอดการให้บริการของทรูมันนี่ วอลเล็ท ให้ครบวงจร
โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินนอกเหนือจากบริการรับเงิน โอนเงิน และชำระเงิน ซึ่งเป็นบริการเริ่มแรกของทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยปัจจุบันการต่อยอดบริการทางการเงินในทรูมันนี่ วอลเล็ท มี 3 ด้าน ได้แก่ บริการสินเชื่อส่วนบุคคล Next และ Nextra บริการประกัน บริการการลงทุน ได้แก่ เงินฝากออมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย 2% ผ่านความร่วมมือกับธนาคารเกียรินาคิน (KKP) การเสนอขายกองทุนรวมที่มีอยู่ 10 บลจ. และการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตฯ จะเป็นบริการที่เข้าเสริมด้านการลงทุนให้ผู้ใช้งานทรูมันนี่ วอลเล็ท
บริษัทตั้งเป้ามีจำนวนผู้ใช้บริการที่เข้ามาใช้บริการการลงทุนพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัล และคริปโตฯ ที่เปิดให้บริการในทรูมันนี่ วอลเล็ท ถึงสิ้นปี 65 ไว้จำนวน 100,000-200,000 ราย หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันทรูมันนี่ วอลเล็ท มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมกว่า 24 ล้านราย