น ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แจ้งมติคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ในอัตราการจ่ายเดิม คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000-100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ 50 บาทต่อเดือน โดยให้จ่ายเป็นจำนวน 10 เดือน งวดแรกสำหรับเดือนตุลาคม 2564-กุมภาพันธ์ 2565 จะจ่ายในเดือนเมษายน 2565 และงวดถัดไปจะจ่ายเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2565
กรมบัญชีกลางกำหนดการโอนเงินสงเคราะห์เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์ ดังนี้
งวดที่จ่าย เดือนที่ได้รับสิทธิ วันที่โอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1 ตุลาคม 2564-กุมภาพันธ์ 2565 (5 เดือน) 23 เมษายน 2565
2 มีนาคม 2565 15 พฤษภาคม 2565
3 เมษายน 2565 15 มิถุนายน 2565
4 พฤษภาคม 2565 15 กรกฎาคม 2565
5 มิถุนายน 2565 15 สิงหาคม 2565
6 กรกฎาคม 2565 15 กันยายน 2565
ซึ่งวงเงินดังกล่าวสามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” ที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งสามารถถอนเป็นเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย หรือสาขาของธนาคารกรุงไทย ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0-2109-2345 และ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 ในวัน และเวลาราชการ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว