xs
xsm
sm
md
lg

บล.กรุงไทย ซีมิโก้ เปลี่ยนชื่อ "บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง "

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.กรุงไทย ซีมิโก้ (KTZ) เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) ให้สอดคล้องในทิศทางเดียวกับบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย และ "เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล" ผู้ถือหุ้นใหญ่ เปิดแผนธุรกิจสร้างการเติบโตก้าวกระโดด เดินเกมผนึกกำลัง 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ตั้งเป้าหมายรุกหนักทั้งธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ เวลธ์แมเนจเม้นท์ วาณิชธนกิจ และลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศ

ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด (บริษัทฯ) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัททรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด ก้าวสู่อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยทำการเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ใช้ชื่อย่อ KTX ซึ่งได้ทำการจดทะเบียนชื่อใหม่ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่ในครั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงชื่อและตราสัญลักษณ์ของบริษัทฯ ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับบริษัทอื่นในเครือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ด้วยการถือครองหุ้นในสัดส่วนเดิมคือ 50% และ 49.70%

“นอกจากเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ให้สอดคล้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่ ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ มีเป้าหมายจะเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จะเน้นการทำงานร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่ให้มากขึ้น ทั้งกับธนาคารกรุงไทย และบมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ซึ่งจะจับมือผนึกกำลังกันช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมส่งมอบบริการให้ครอบคลุมและสร้างประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯจะเน้นให้ความสำคัญกับธุรกิจต่างๆ ดังนี้ ธุรกิจนายหน้าซื้อหลายหลักทรัพย์แบบ Full Service Broker ธุรกิจเวลธ์เมเนจเมนต์ (Wealth Management) ธุรกิจวาณิชธนกิจ (Investment Banking) และธุรกิจลงทุนหลักทรพย์ต่างประเทศ (Inter Market trading) รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น การเป็นผู้จัดการการจัดหน่าย DR (Depositary Receipt) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่จะให้การบริการทางการเงิน การลงทุนอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าว

ม.ล.ทองมกุฎ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะทางด้านการเงินและการลงทุน ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมและพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยปลดล็อกการลงทุนให้ง่ายสุดๆ บนโลกดิจิทัลด้วย “WealthMe” โมบายแอปพลิเคชัน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และกองทุนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว พร้อมซื้อขายได้ทันที อนุมัติไว เพียงผู้สมัครทำการยืนยันตัวตนดิจิทัล (NDID) ผ่านกระบวนการ e-KYC (electronic-Know Your Client) และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนด โดยโมบายแอปพลิเคชัน “WealthMe” พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักลงทุนด้วยจุดเด่น เช่น จัดการพอร์ตลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทุกสินทรัพย์ไว้ที่เดียว ทั้งหุ้นไทย/ต่างประเทศ อนุพันธ์ ตราสารหนี้ และกองทุนรวม ระบบวิเคราะห์หุ้นอัจฉริยะด้วย AI บทวิเคราะห์คุณภาพ ทั้งหุ้นรายตัวในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมต่อไปยังโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์/อนุพันธ์ และโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ทันที และเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น