PIMO คงเป้ารายได้ปี 65 ที่ 1,200 ล้านบาท หลังรับรู้ออเดอร์ล่วงหน้ากว่า 8 เดือน พร้อมเล็งพัฒนากลุ่มมอเตอร์ด้านอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รับอานิสงส์ความต้องการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO ผู้ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump, Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่าหลังจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินงานในปี 2565 ผ่านมาเป็นระยะเวลา 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.65) ยังคงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อล่วงหน้า (ออเดอร์) เข้ามาแล้ว 8 เดือน ประกอบกับบริษัทฯ เตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาให้ทันภายในปีนี้ เพื่อที่จะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาด้านอิเล็กทรอนิกส์สำหรับมอเตอร์ BLDC เพื่อให้มีความทันสมัยขึ้นและต้นทุนการผลิตต่ำลง เพราะมอเตอร์ดังกล่าวสร้างอัตราการทำกำไรในระดับที่ดี
ส่วนโครงการพัฒนามอเตอร์แบบฮับสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV Hub Motor) บริษัทฯ ได้ส่งมอเตอร์ต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาจากทางสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้ทางลูกค้าเรียบร้อยแล้ว โดยทางลูกค้าอยู่ระหว่างการทดสอบใช้มอเตอร์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2565 ดังนั้นบริษัทฯ จึงคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์มอเตอร์ EV ให้เกิดขึ้นภายในปีนี้ หลังจากที่ผ่านมาได้รับออเดอร์จากอีทราน (ไทยแลนด์) เข้ามาแล้วประมาณ 5,000 ลูก ตอนนี้อยู่ในระหว่างส่งมอบเพื่อทดลองและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยพร้อมผลิตและส่งมอบได้ก่อนกำหนดไตรมาส 4 ปีนี้ และจะมีคำสั่งซื้อจากจีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์ GPX อีก 10,000 ลูก” นายวสันต์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญในการใช้พลังงานไฟฟ้าในธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบพื้นที่หลังคาของอาคารที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมในการตอบสนองความต้องการไฟฟ้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ได้มีการออกแบบอุปกรณ์หยิบจับและระบบความคุมเพื่อใช้ทำงานร่วมกับโรบอท ใน 2 สายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและควบคุมคุณภาพให้สูงขึ้น ได้แก่ แผนกฉีดอะลูมิเนียม และแผนกเชื่อมชิ้นส่วนมอเตอร์ ด้วยฝีมือของบุคลากรภายในบริษัทฯ เอง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังได้กำหนดมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมมอเตอร์ไฟฟ้าขึ้น โดยดำเนินตามพันธะสัญญาในด้านการค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นที่ความต้องการของลูกค้า และนี่คือสิ่งที่ท้าทายตลอดเวลาในเรื่องของมาตรฐานการออกแบบและการดำเนินการ