xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจโรงแรม Q1/65 ยังไม่ฟื้น แม้รัฐยกเลิกกักตัว-RT-PCR ดึงต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ภาพรรวมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศในไตรมาสแรกนี้เริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้นหลังสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวไทยไม่ได้เป็นไปอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ว่าจะยังคงหดตัวจากปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลกระทบจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดให้ชาวต่างชาติหรือคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะมาจากประเทศใดทุกรูปแบบทั้ง Test & Go, Sandbox, Alternative Quarantine ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการทดสอบ RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง ลดระยะเวลาของการเข้าพักภายใต้โครงการแซนด์บ็อกซ์เหลือ 5 วัน จากก่อนหน้านี้คือ 7 วัน แต่ผู้เข้าพักในโครงการแซนด์บ็อกซ์ยังต้องมีการตรวจ ATK ในวันที่ 5 ซึ่งถ้าผลเป็นลบออกจากแซนด์บ็อกซ์ได้” นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด กล่าว

สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่ต้องกักตัวจะลดลงเหลือเพียง 5 วัน จากที่ก่อนหน้านี้ต้องกักตัว 10 วัน แต่ยังมีการตรวจโควิดแบบ RT-PCR ในวันที่ 4-5 หลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย และผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในกลุ่มนี้ต้องเข้าพักในโรงแรม Alternative Quarantine (AQ) ที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค. ซึ่งการลดขั้นตอนต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับหลายประเทศที่เริ่มผ่อนปรนมาตรการการคัดกรองคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย 2563-2564 ลดลงกว่า 96% เมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยลดลง ประกอบกับคนไทยเองกฝเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงเช่นกัน ธุรกิจโรงแรมที่พักต่างๆ ทั่วประเทศไทยได้รับผลกระทบกันมายาวนาน 2 ปีกว่าๆ แล้ว ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากอัตราการเข้าพักที่ต่ำกว่า 20% ในหลายเดือนของช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา

สุรเชษฐ กองชีพ
โรงแรมในหลายจังหวัดยังมีอัตราการเข้าพักที่ต่ำมาก โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลที่ก่อนหน้านี้อาศัยนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ภูเก็ต ในขณะที่จังหวัดซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นส่วนหนึ่งของกำลังซื้อ หรือนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมยังมีอัตราการเข้าพักที่สูงกว่าจังหวัดชายทะเลต่างๆ เช่น เชียงใหม่ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในเชียงใหม่สูงกว่าจังหวัดอื่นๆ แม้แต่กรุงเทพมหานครโดยอาจจะมีการปรับขึ้นลงตามช่วงสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่ส่วนใหญ่แล้วอัตราการเข้าพักของโรงแรมในประเทศไทย ในช่วงปี 2563 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ต่ำกว่า 20-30% มีเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นที่มีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 40% ซึ่งเมื่อเฉลี่ยทั้งปีแล้วอัตราการเข้าพักยังคงต่ำกว่า 30% ซึ่งไม่สามารถสร้างรายได้เพื่อดำเนินธุรกิจต่อเนื่องไปได้ โรงแรมจำนวนมากเลือกที่จะปิดกิจการชั่วคราวไปก่อน หรือหลายรายเลือกที่จะขายต่อกิจการให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเนื่องจากปัญหาภาระหนี้สินจากการขอสินเชื่อธนาคารซึ่งผูกพันต่อเนื่องมาถึงช่วงเวลาที่รายได้ลดลงมหาศาลแบบทันทีทันใดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นายสุรเชษฐ กล่าวว่า โรงแรมทั้งหมดแบกรับภาระค่าใช้จ่ายรวมไปถึงปัญหาหนี้สินมาต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเจรจากับธนาคารหรือสถาบันการเงินมาแล้วก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถผ่อนผันได้ยาวนานเกินกว่า 1 ปี อาจต้องมีการเจรจากันต่อเนื่องกับเจ้าหนี้ซึ่งคาดว่าเจ้าของกิจการโรงแรมยังคงต้องแบกภาระต่อเนื่องต่อไปอีก 2-3 ปี เพราะจากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมล้วนมีความเห็นตรงกันว่าปี 2567-2568 การท่องเที่ยวของทั้งโลกจึงจะกลับมาอยู่ในภาวะใกล้เคียงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเจ้าของกิจการโรงแรมขนาดกลาง ขนาดเล็ก และรายใหม่ทั้งหลายคงไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่เจ้าของกิจการยังมีภาระหนี้สินอยู่กับสถาบันการเงินอาจจะพอมีรายได้เข้ามาเพื่อหมุนเวียนในกิจการเท่านั้น เรื่องของภาระหนี้สินอาจต้องมีการเจรจากันใหม่กับสถาบันการเงิน


ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาจึงเห็นนักลงทุนหรือผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมจำนวนมากพยายามออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลลดขั้นตอนการเข้าประเทศลงเพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น ลดการกักตัวหรือไม่ต้องมีเลยในกรณีที่มีการตรวจเชื้อโควิด-19 มาจากต่างประเทศแล้วเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าประเทศไทยซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการหรือไม่มีข้อจำกัดในการคัดกรองคนที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศแล้ว

ประเทศไทยซึ่งพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากชาวต่างชาติมากถึงประมาณ 20% ของ GDP ยิ่งจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้าประเทศไทยมากขึ้น รวมไปถึงการกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้มากกว่าที่ผ่านมา โดยจะเห็นได้จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาซึ่งถือว่าได้ผลต่อเนื่องในบางจังหวัด เพียงแต่ต้องแลกมาด้วยจำนวนของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจากผ่านช่วงวันหยุดยาวของปีนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ที่มากขึ้นเพราะคนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา อีกทั้งยังผ่อนคลายการเฝ้าระวัง ลดความระวังตัวมากกว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา 


แม้ว่าจำนวนคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะมากขึ้นแล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อใหม่ได้ ถ้าจำนวนของผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันมากกว่าที่ผ่านมา เป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของประเทศไทยหลังสงกรานต์คงยังต้องชะลอตัวต่อไปอีก แต่ช่วงสงกรานต์นี้รัฐบาลคงไม่มีมาตรการรุนแรงหรือเด็ดขาดออกมา เนื่องจากรัฐบาลเองต้องการให้คนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น แม้ว่าช่วงสงกรานต์นี้อาจจะเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้จ่ายต่ำที่สุดในรอบ 10 กว่าปีก็ตาม เพราะคนยังกังวล อีกทั้งภาระจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมามากขึ้น

ช่วงสงกรานต์ปีนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาที่โรงแรมในบางจังหวัดมีอัตราการเข้าพักสูงขึ้น แต่คงไม่ได้มากมายเท่าใด เพราะกิจกรรมงานสงกรานต์ในหลายจังหวัดยังคงงดการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในช่วงเวลานี้ คือ ภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกลายเป็นภาระใหม่ และมีโรงแรมที่พักจำนวนไม่น้อยที่กล่าวว่า ภาระภาษีที่ดินที่เก็บเต็มอัตรา 100% นี้มีอัตราภาษีที่มากกว่าอัตราภาษีเดิมซึ่งเก็บตามรายได้ของโรงแรม แต่ภาษีที่ดินเก็บตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งมูลค่าที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ไม่ได้ลดลงมากมายแบบรายได้ของโรงแรม ดังนั้น ภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จึงเป็นภาระที่ใหญ่มากในภาวะนี้


"แม้ว่าจำนวนของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 เกือบจะมากกว่าจำนวนรวมทั้งปี 2564 แล้ว แต่ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปทั้งปี 2565 เพียงแต่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ปัจจัยลบอื่นๆ นอกจากที่เห็นได้ชัดเจนแล้วทั้งเรื่องของโควิด-19 ความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย การปิดน่านฟ้า เงินเฟ้อ ค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยอื่นๆ อาจจะยังไม่ชัดเจน แต่การปิดน่านฟ้ายูเครนรัสเซียสำหรับเครื่องบิน หรือสายการบินจากบางประเทศอาจจะมีผลดีต่อประเทศไทย หรือสายการบินของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้อยู่ในรายชื่อห้ามบินผ่านน่านฟ้าที่ปิด มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีสายการบินอื่นๆ มาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทยมากขึ้น แต่ประเทศไทยเองต้องคุมเข้มเรื่องของมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 ให้ต่อเนื่องเพื่อให้ชาวต่างชาติมีความกล้าในการเดินทางมาที่ประเทศไทยมากขึ้น ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมจะได้กลับมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย" นายสุรเชษฐ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น