หุ้นเหมืองบิตคอยน์ยังคงบวกต่อเนื่อง เช้านี้ส่วนใหญ่วิ่งแดนบวก JTS นำโด่งบวก 8 บาท ตามด้วย ZIGA เพิ่มขึ้น 70 สตางค์ ส่วนตัวอื่นขยับบวกตามกระแส ส่วนอีก 5 ตัวช่วงเช้าปิดลดลง
หลังจากราคาหุ้นหลายแห่งที่หันไปรุกธุรกิจการขุดเหมืองสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) หรือขุด Bitcoin คึกคักและราคาทะยานซิลลิ่งไปหลายตัวเมื่อหลายเดือนก่อน วันนี้ต้องมาตามรอยของ บริษัทจดทะเบียนที่หันไปลุยขุดบิตคอยน์ เพราะการขุดเหมืองสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) หรือขุด Bitcoin กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ฮอตฮิตติดเทรนด์ขึ้นมาในเวลาใกล้เคียงกันกับธุรกิจกัญชง-กัญชา ผู้ประกอบการหลายแห่งให้ความสนใจธุรกิจใหม่มากขึ้น
โดยเฉพาะบริษัทที่เข้าจดทะเบียน หรือ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ที่เบนเข็มแตกไลน์ธุรกิจ เพราะมองว่าเป็นอีกช่องทางเพื่อสร้างรายได้และกำไร อีกทั้งยังส่งผลบวกต่อราคาหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ การขุดเหมืองเงินดิจิทัลนั้นจะทำโดยการเข้ารหัสทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบที่เรียกว่า Blockchain (บล็อกเชน) เป็นระบบข้อมูลการเงินออนไลน์ที่เป็นตัวช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน ส่วนใหญ่นักลงทุนจะนิยมขุดบิตคอยน์ (Bitcoin) เพราะเป็นสกุลเงินที่เก่าแก่ ถือเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างให้ความสนใจ ซึ่งหลายคนหวังทำกำไรขุด Bitcoin และถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่หลายคนรู้จักกันมากที่สุด และเป็นสกุลเงินที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างมาก เพราะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถโอนข้ามประเทศได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แม้ว่าปัจจุบันยังมีสกุลเงินดิจิทัลอีกหลากหลาย อย่าง Ethereum, Monero, Zcash และ Bitcoin Gold ที่นักลงทุนนิยมขุดมากก็ตาม
สำหรับ บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เบนเข็มสู่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และหันมาขุด Bitcoin ปัจจุบันที่ชัดเจนและเดินหน้าไปตามแผนแล้วมีทั้งสิ้น 11 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ที่ได้จัดตั้งบริษัท ซิก้า เอฟซี จำกัด (ZIGA FC) บริษัทย่อยได้รับมอบเครื่องขุดบิตคอยน์เพิ่มอีก 200 เครื่อง จากเดิมที่มี 200 เครื่อง ส่งผลให้มีเครื่องขุด 400 เครื่อง โดยเครื่องขุดบิตคอยน์นี้แล้วเสร็จและรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 65 ส่งมอบและติดตั้งที่สำนักงานซิก้าเอฟซี-สุขสวัสดิ์ ตามแผนการลงทุนเหมืองขุดบิตคอยน์ตามที่แจ้งไว้ก่อนหน้าในรายงานความคืบหน้าธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์
ราคาหุ้น ZIGA ปิดช่วงเช้าที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 7.14% มูลค่า 1,551.14 ล้านบาท
บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เป็นการลงทุนผ่านบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จํากัด (JasTel) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อลุยธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่งก่อนหน้านั้นคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นอนุมัติการจัดซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ที่มีพลังประมวลผลสูง จํานวน 1,725 เครื่อง รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 437.31 ล้านบาท และปีนี้เดินหน้าขยายการลงทุนด้วยการซื้อเครื่องขุดเพิ่มอีกด้วยเป้าหมาย 8,100 เครื่อง รวมทั้งระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ครบ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 3,300 ล้านบาท เป็นการเพิ่มศักยภาพในการในการขุดบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านTerrahash/s และนั่นส่งผลให้ JTS เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์รายใหญ่สุดของไทย
หุ้น JTS ปิดเช้าที่ 480.00 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 1.69% มูลค่าซื้อขาย 125.14 ล้านบาท
บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA ร่วมลงทุนกับ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (AIFS) มูลค่าประมาณ 440.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นได้ติดตั้งเครื่องขุดไปแล้ว 400 เครื่อง ซึ่งได้ขุดคริปโตฯ แล้ว ส่งผลให้รับรู้รายได้ทันที อีกทั้งจะติดตั้งอีก 4,000 เครื่อง คาดแล้วเสร็จเมษายนนี้ นั่นหมายถึงรายได้ที่จะเข้ามาเต็มที่ในไตรมาส 2 ปีนี้
หุ้น UPA ปิดช่วงเช้าที่ 0.56 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 1.75% มูลค่าซื้อขาย 85.75 ล้านบาท
บริษัท โคแมนซี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท โคแมน คริปโต จำกัด ทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เพื่อดำเนินการลงทุนในธุรกิจขุดคริปโตเคอร์เรนซี หลังจากศึกษาข้อมูลมา และพบว่าธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาวสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัทได้
หุ้น COMAN ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.63% มูลค่าซื้อขาย 0.12 ล้านบาท
บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด จำนวน 10 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อรองรับการขุดบิตคอยน์ จำนวน 2,000-2,200 เครื่อง สามารถขุดบิตคอยน์ได้ 50-55 BTC ต่อเดือน ซึ่งจะทำให้บริษัทเป็นผู้ประกอบการรายแรกในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจรูปแบบ Clean Cryptocurrency โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 100% และคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในเครื่องขุดบิตคอยน์ราว 700 ล้านบาท เนื่องจาก NRF เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาว เพราะมองว่า Blockchain เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเริ่มต้นด้วยการรุกธุรกิจเหมืองขุดคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
NRF ปิดเช้าที่ 6.75 บาท ลดลง 0.15 บาท หรือ 2.17% มูลค่าซื้อขาย 20.08 ล้านบาท
บริษัท เอเจ แอควานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA เดิมทีนั้น AJA ได้ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์แล้ว 200 เครื่อง และเดินเครื่องขุดแล้ว 70 เครื่อง แต่เพราะได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนของการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ จึงทำการซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์เพิ่มอีก 500 เครื่อง ใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ อันจะเป็นแรงหนุนสร้างกำไรให้บริษัทในปีนี้
AJA ปิดช่วงเช้า 0.53 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 10.81 ล้านบาท
บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI จัดตั้งบริษัท เอสซีไอ เวนเจอร์ จำกัด (SCIV) เพื่อหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ ซึ่งท้ายที่สุด SCI แต่งตั้งบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่่มีความรู้ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอย่างดีมาเป็นที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการเหมืองขุดบิตคอยน์ ทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด ได้เพิ่มทุน SCIV 140 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) ด้วยการซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ 195 เครื่อง และตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้งอื่นๆ มูลค่า 140 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยสั่งซื้อและติดตั้งไตรมาส 3 นี้ คาดรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง
SCI ปิดช่วงเช้าที่ 2.26 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ 2.59% มูลค่าซื้อขาย 16.79 ล้านบาท
บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN นอกจากจับมือกับบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด (Mining Pro) เพื่อร่วมพัฒนาลงทุนในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทย โดยมีการจัดจำหน่ายเครื่องขุดเหรียญ Crypto รับฝากวางเครื่อง (เฉพาะรุ่น) พร้อมให้บริการดูแลเครื่องขุด และงานให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว PROEN ยังลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub) เพื่อทำธุรกรรมการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจขุดบิตคอยน์ ทั้งการติดตั้งและขายเครื่องขุดบิตคอยน์ ซึ่งผู้บริหาร PROEN เผยว่าจะเห็นการให้เช่าเครื่องขุดบิตคอยน์ของ บริษัทในไม่อีกไม่นาน
หุ้น PROEN ปิดเช้าที่ 8.60 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.58% มูลค่า 3.14 ล้านบาท
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF ได้จัดตั้งให้บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ ECFH ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเมื่อขุดสกุลเงินดิจิทัลได้จะนำไปจำหน่ายต่อไป เบื้องต้นจะลงทุนมูลค่า 80 ล้านบาท และปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการติดตั้งเพิ่มเติม จากการสั่งซื้อไปแล้ว 150 เครื่อง คาดว่าทยอยติดตั้งแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2565 นี้ โดยมองว่าธุรกิจขุดบิตคอยน์จะสนับสนุนผลประกอบการในกลุ่ม ECF แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะอนาคตเทรนด์การใช้บิตคอยน์ ต้องเข้ามาทดแทนธุรกรรมต่างๆ เพื่อรองรับโลกอนาคต
หุ้น ECF ปิดเช้าที่ 1.93 บาท ลดลง 0.01 บาท หรือ 0.52% มูลค่าซื้อขาย 23.53 ล้านบาท
บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เดินหน้าตั้งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ cwtGM เพื่อร่วมกับบริษัท ดรีมเมอร์เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท Tech Startup ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุดและงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจร รวมถึงการให้คำแนะนำในการลงทุนสร้างเหมือง Bitcoin เพื่อการพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) คาดเห็นผลและออกแบบเดือนเมษายนนี้
หุ้น CWT ปิดเช้าที่ 3.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อ 22.44 ล้านบาท
บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ MVP คือล่าสุดที่เข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเหมืองขุดบิตคอยน์ใน สปป.ลาว วงเงินไม่เกิน 160 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะจัดหาเครื่องขุดบิบตคอยน์ โดยการเข้าทำสัญญาจัดซื้อและติดตั้ง (Turnkey contract) กับทาง Vientiane Asset Management Sole Co.,Ltd. (VAM) สปป.ลาว เพื่อจัดหาเครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 500 เครื่อง ซึ่ง VAM จะดำเนินการจัดหาและติดตั้งให้แล้วเสร็จ ภายใน 14 วันทำการนับจากวันที่ลงนามในสัญญา บริษัทคาดว่าจะสามารถว่าเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เหมืองขุดบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทจะใช้นโยบายบัญชีในการบันทึกบิตคอยน์ที่ขุดได้และจำหน่ายบิตคอยน์ที่ขุดได้เพื่อให้ได้มาซึ่งกระแสเงินสด โดยจะบันทึกมูลค่าจากธุรกรรมการขายบิตคอยน์ อีกทั้งยังศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อยอดโครงการ Metaverse Thailand โดยการสร้างโลกเสมือนอิงกับโลกจริง (Metaverse) สำหรับธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
หุ้น MVP ปิดเช้าที่ 6 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.84% มูลค่าซื้อขาย 11.99 ล้านบาท