หุ้นกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กำลังกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นเต็มตัว แต่ระหว่างชั่วโมงซื้อขายเมื่อวันอังคารที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ราคาหุ้นเกิดความผันผวนอย่างหนัก สร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุนทั้งตลาดหุ้น
แรงขายไหลบ่าเข้ามาในหุ้น EA เวลาประมาณ 11.00 น. และทำให้ราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นไปยืนที่ 101 บาท ปักหัวลงทันที จากกำลังบวกอยู่ดี ๆ กลับมาทรุดแรง ก่อนปิดการซื้อขายที่ 94.25 บาท ลดลง 5.75 บาท หรือลดลง 5.75%
ขณะที่หุ้นในกลุ่มถูกเทขายในลักษณะเดียวกัน โดยหุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ซึ่งราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 21.70 บาท ก่อนจะไหลรูดลงมาปิดที่ 19.10 บาท ลดลง 90 สตางค์ และหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ซึ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 15.40 บาท แต่ถูกถล่มขายจนลงมาปิดที่ 13.80 บาท ลดลง 30 สตางค์
การเทขายหุ้นเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับการบริหารงานของกลุ่มบริษัท EA ซึ่งถูกปล่อยผ่านสื่อโซเชียล และแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วในตลาดหุ้น กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ขายหุ้น โดยไม่มีการตรวจสอบว่าข่าวที่ถูกปล่อยออกมามีข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะนาทีนั้นทุกคนต้องการขายเพื่อหนีตาย
ฝ่ายบริหารบริษัทกลุ่ม EA ไม่ได้ชี้แจงข่าวที่ถูกปล่อยออกมาในทันที การเทขายหุ้นจึงดำเนินต่อไปจนกระทั่งปิดการซื้อขาย โดยหุ้นทั้งกลุ่มที่กำลังปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ราคาทรุดลงถ้วนหน้า
หุ้นกลุ่ม EA กำลังเต็มไปด้วยข่าวดี โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ EA ในงานมอเตอร์โชว์ 2022 พุ่งขึ้นสูง ขณะที่ BYD ชนะประมูลสัมปทานเดินรถประจำทาง 71 สายในเขต กทม.และปริมณฑล ส่วน NEX จะเป็นผู้ผลิตรถประจำทางป้อนให้ BYD
ราคาหุ้น EA ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงนี้ และเตรียมที่จะแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 105.50 บาท เช่นเดียวกับ NEX และ BYD
นักลงทุนกำลังแห่เก็งกำไรหุ้นกลุ่ม EA อย่างสนุกสนาน และไม่มีสัญญาณเตือนภัยใดในหุ้นกลุ่มนี้ แต่ขณะที่เคาะซื้อขายกันอย่างเพลิดเพลิน ก็มีการปล่อยข่าวเชิงลบเกี่ยวกับการบริหารงานภายในของบริษัท จุดชนวนสู่การเทขาย
ฐานราคาหุ้นกลุ่ม EA ที่ถูกปั้นขึ้นมาอย่างมั่นคง โดยปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่อง ต้องถล่มทลายลง และไม่มีนักลงทุนรายใดตั้งตัวทัน หรือขายหุ้นออกไม่ทัน
ไม่รู้ว่าฝ่ายบริหารบริษัทกลุ่ม EA จะเรียกขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนคืนกลับมาในระยะสั้นได้หรือไม่
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ไม่มีคำชี้แจงใดจากกลุ่ม EA แม้กระทั่งก่อนเปิดการซื้อขายในวันที่ 7 เมษายน มีแต่ความเงียบ และทำให้ข่าวในเชิงลบแพร่กระจายต่อไป ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุนมากขึ้น กดราคาหุ้นให้ดิ่งหนักลงอีก
ก่อนหน้ามีการวิพากษ์วิจารณ์ราคาหุ้นกลุ่ม EA อยู่เหมือนกัน โดยถูกมองว่าแพง โดย EA มีค่าพี/อี เรโชพุ่งขึ้นกว่า 60 เท่า ส่วน BYD และ NEX ผลประกอบการยังขาดทุน ไม่มีค่าพี/อี เรโช ให้คำนวณความเหมาะสมของราคา แต่เพราะมีข่าวดีกระตุ้นการเก็งกำไรต่อเนื่อง ราคาหุ้นจึงพุ่งทะยานยกกลุ่ม
ราคาหุ้น EA ที่ร้อนแรง และเริ่มวิ่งไปไกลจากปัจจัยพื้นฐาน ทำให้หุ้นมีความเปราะบาง เมื่อมีข่าวเชิงลบเข้ากระทบจึงเกิดการถล่มขาย และเป็นการขายในลักษณะหนีตาย
ข่าวร้ายที่ปล่อยผ่านสื่อโซเชียล และถล่มหุ้นจนจมดินทั้งกลุ่ม ไม่รู้ว่าทำไมฝ่ายบริหาร EA จึงไม่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ แต่กลับปิดปากเงียบสนิท
หรือว่าข่าวร้ายที่ปล่อยออกมาถล่มหุ้นกลุ่มนี้จะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือเสียแล้ว
