ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ขณะตลาดบางแห่งปิดทำการ ทางด้านนักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ หลังเกิดภาวะ inverted yield curve เมื่อวันศุกร์ (1 เม.ย.) โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,685.65 จุด เพิ่มขึ้น 19.67 จุด หรือ +0.07% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,227.11 จุด เพิ่มขึ้น 187.56 จุด หรือ +0.85%
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (4 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง
บรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดันหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยเมื่อคืนวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค. ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง แต่ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 3 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.626% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.576% เมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวอยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.448% ขณะที่พันธบัตรอายุ 30 ปีอยู่ที่ระดับ 2.536%
ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในอีกเพียงไม่กี่ปีถัดมา