ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) เนื่องจากแรงกดดันจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มี.ค.จากไฉซิน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,821.43 จุด ลดลง 197.32 จุด หรือ -0.71%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,693.10 จุด ลดลง 303.75 จุด หรือ -1.38% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,234.67 จุด ลดลง 17.53 จุด หรือ -0.54%
นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งการที่ชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซียกรณีใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน ซึ่งส่งผลให้รัสเซียใช้มาตรการตอบโต้ โดยล่าสุด ปธน.วลาดิมีร์ ปูติน ได้ลงนามในกฤษฎีกาซึ่งระบุว่า ต่างชาติที่ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียจะต้องชำระเงินเป็นสกุลรูเบิลเท่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. และสัญญาการซื้อก๊าซจะถูกระงับหากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2526
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานไปแล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 1/2565 ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้นอยู่ที่ระดับ +14 ลดลงจากระดับ +17 ในไตรมาส 4/2564 แต่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ที่ +11