xs
xsm
sm
md
lg

คลังเลื่อนแผนจัดเก็บภาษีขายหุ้น ชี้จังหวะยังไม่เหมาะสม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปลัดคลังเผย คลังเลื่อนแผนจัดเก็บขายหุ้น Transaction Financial Tax ชี้สถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้อ ด้านกรมสรรพากรระบุไม่กระทบเป้าจัดเก็บในปีงบ 65 เนื่องจากไม่ได้จัดอยู่ในประมาณการรายได้

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังมีนโยบายที่จะเข้าจัดเก็บภาษีการขายหุ้น Transaction Financial Tax แต่เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เหมาะสม จึงขอเลื่อนการใช้นโยบายดังกล่าวออกไป

เขากล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ได้รับผลกระทบทั้งจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้อาจจำเป็นต้องชะลอการจัดเก็บภาษีตัวนี้ออกไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่หากถามถึงความพร้อมในการจัดเก็บภาษีตัวนี้ กระทรวงการคลังมีความพร้อม

ส่วนในประเด็นเรื่องอัตราการจัดเก็บนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่น บางประเทศเก็บน้อยกว่าไทย บางประเทศเก็บมากกว่า และขณะที่บางประเทศเก็บเป็นแบบ capital gain ไม่ได้เก็บจากการขาย

“เชื่อว่าในแง่อัตราการจัดเก็บภาษีตัวนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาดมากนัก และเข้าใจว่าคนที่อยู่ในตลาดนี้มีรายได้ค่อนข้างสูง”

เขากล่าวอีกว่า ความจริงแล้วกระทรวงการคลัง มีกฎหมายออกมาให้เก็บภาษีตัวนี้ตั้งแต่ปี 2535 แต่กระทรวงการคลังได้ยกเว้นมาโดยตลอดเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของตลาดหลักทรัพย์ ที่ช่วงนั้นมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 7-8 แสนล้านบาท แต่วันนี้มูลค่าตลาดสูงถึง 16 ล้านล้านบาท หรือพอๆ กับขนาดของจีดีพี

ด้านนางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า หากมีการเลื่อนการจัดเก็บภาษีการขายหุ้นออกไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ดของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2565 เนื่องจากกรมสรรพากรยังไม่ได้นำรายได้ตัวนี้เข้ามารวมในคาดการณ์รายได้ของกรมในปีงบประมาณดังกล่าว

“มีเพียงรายได้จากภาษี e-service ที่กรมได้นำมารวมเป็นคาดการณ์รายได้ของกรม ซึ่งเดิมกรมฯ คาดว่าจะมีรายได้จากภาษี e-service ในปีงบประมาณนี้ที่ 5 พันล้านบาท ขณะนี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านบาท ถึง 1 หมื่นล้านบาท”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กรมสรรพากร ได้เคยศึกษาว่าหากต้องจัดเก็บภาษีการขายหุ้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 0.11% ของยอดขาย จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อนักลงทุนในตลาด โดยพบว่านักลงราว 80% จะไม่ได้รับผลกระทบเพราะมูลค่าการขายต่อเดือนไม่เกิน 1 ล้านบาท

สำหรับอัตราการจัดเก็บนั้นถูกกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรอยู่แล้วที่ 0.1% ของการขาย บวกกับภาษีท้องถิ่นอีก 10% รวมเป็น 0.11% แต่ภาษีตัวนี้ได้รับการยกเว้นมานานถึง 30 ปีแล้ว

ทั้งนี้ กรมสรรพากรมองว่าอัตราที่จัดเก็บดังกล่าวเป็นอัตราที่ต่ำโดยคิดเฉพาะส่วนเกินของวงเงินที่ได้รับการยกเว้น เช่น หากวงเงินการขายเกินมา 1 พันบาท จะเสียภาษีเพียง 1 บาทเศษ ถ้าวงเงินการขายเกินมา 1 ล้านบาท จะเสียภาษีเพียง 1 พันบาทกว่าเท่านั้น ดังนั้น จึงถือว่าภาระภาษีไม่ได้มาก โดยเฉพาะภาระที่เกิดกับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูง


กำลังโหลดความคิดเห็น