เอเซียพลัส เปิดโผ 16 หุ้นเล็กได้รับผลกระทบเต็มๆ จากเกณฑ์ Cash Balance ใหม่ของ ตลท. ที่จะเริ่มใช้ เม.ย.นี้ เชื่อส่งผลดี ช่วยนักลงทุนลดเสี่ยง สกัดกั้นการทำราคา และทำให้หันมาโฟกัสที่ Valuation มากขึ้น ขณะที่หุ้นที่ติด Cash Balance ปัจจุบัน มองเป็น Sentiment ลบเพิ่มเติม ราคาถูกผลักได้ยากขึ้น
หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศใช้เกณฑ์กำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ให้เข้มข้นขึ้น ที่จะเริ่มใช้ 4 เม.ย.65 โดยเพิ่มเกณฑ์การหยุดซื้อขายหุ้นที่ถูกควบคุมสูงสุด 1 วัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลในหุ้นที่ติด T1, T2, T3 เพื่อลดความเสี่ยงกับนักลงทุน ประกอบด้วย
มาตรการระดับ 1 จากให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ (บัญชี cash balance) เป็นให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ (บัญชี cash balance) และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย
มาตรการระดับ 2 จากให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย เป็นให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement
มาตรการระดับ 3 จากให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement เป็นห้ามซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการ (เฉพาะวันแรก) เมื่ออนุญาตให้ซื้อขาย ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement
ASPS ระบุ 16 หุ้นรับผลกระทบหลัง ตลท. ออกเกณฑ์ใหม่
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) ประเมินผลลัพธ์ หลังตลาดยกระดับมาตการกำกับการซื้อขาย เริ่ม 4 เม.ย.65 ในภาวะที่สภาพคล่องส่วนเกินล้นระบบ ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ กองทุน LTF ถูกยกเลิก ทำให้นักลงทุนมองหาการ Search For Yield และหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเองมากขึ้น
โดยปี 2564 มีคนเปิดบญชีซื้อขายหุ้นสูงถึง 1.7 ล้านบัญชี (เพิ่มขึ้น 48%) หนุนปริมาณการซื้อขายสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ อย่างตลาด MAI มีการซื้อขายบ่อยขึ้นจน Turnover ทั้งปีสูงถึง 3.68 เท่า (เพิ่มขึ้น 168%) ผลักดันดัชนี MAI ปรับตัวขึ้นมาถึง 73.1% และมี P/E สูงถึง 58 เท่า
ทั้งนี้ เอเซียพลัสระบุว่า มีหุ้นหลายบริษัทที่มีการปรับตัวขึ้นมาเร็ว มีมูลค่าซื้อขายสูงผิดปกติ โดยที่พื้นฐานไม่ได้รองรับสะท้อนได้จากหุ้นที่ติด Cash Balance ณ ปัจจุบัน 16 บริษัท ภาพรวมมีรายละเอียดดังนี้
1.ปริมาณซื้อขายสูงผิดปกติ สะท้อนได้จากหุ้นดังกล่าวมี Turnover (ytd) สูงผิดปกติ เฉลี่ยอยู่ที่ 137.9% ขณะที่ Turnover (ytd) ของ SET เพียง 25.5%
2.ราคาปรับตัวขึ้นมาเร็ว สะท้อนได้จากหุ้นดังกล่าวมีผลตอบแทนเฉลี่ย ytd 28.2% ขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ย ytd ของ SET 1.2%
3.ไม่สอดคล้องกับพื้นฐาน สะท้อนได้จากหุ้นดังกล่าวมีค่า P/E เฉลี่ย 65 เท่าและขาดทุนถึง 7 บริษัท ขณะที่ P/E ของ SET 19.4 เท่า
ชี้ปรับเกณฑ์ช่วยลดความร้อนแรงหุ้น-สกัดการทำราคา-ลดเสี่ยง
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าการปรับมาตรการครั้งนี้มุ่งเน้นช่วยลดความร้อนแรงของหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติลง และเป็นการสกัดกั้นการทำราคา ถือเป็นการลดความเสี่ยงให้นักลงทุน พร้อมกับหนุนให้นักลงทุนหันมาโฟกัสที่ Valuation มากขึ้น ส่วนหุ้นที่ติด Cash Balance ณ ปัจจุบัน ถือเป็น Sentiment ลบเพิ่มเติม และน่าจะถูกผลักดันราคาได้ยากขึ้น โดยเฉพาะนับตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.65 เป็นต้นไป