ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา เดินหน้าแก้ไขสัญญาตัวแทนจำหน่าย เพิ่มโทษทางแพ่งและอาญา พร้อมยืนยันปัญหาสลากเกินราคาลดความรุนแรงใน 2 เดือน
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงาน ก.พ.(เดิม) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยปัญหาดังกล่าว และกำชับให้คณะทำงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และในวันนี้คณะทำงานได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าควรปรับปรุงแก้ไขสัญญาการรับสลากไปจำหน่ายของตัวแทนจำหน่ายทุกประเภท ให้มีสภาพบังคับทางแพ่งด้วยการกำหนดเบี้ยปรับสำหรับตัวแทนที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา และวางแนวทางในการพิจารณาโทษทางอาญารวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม ในกรณีผู้กระทำผิดซ้ำหรือกรณีนำสลากไปรวมชุด หรือพฤติกรรมนายทุนกว้านซื้อสลากแล้วจำหน่ายในราคาสูง
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า ปัญหาอย่างหนึ่งสลากเป็นสินค้าที่เปลี่ยนมือได้ ใครต้องการขายสลากสามารถไปซื้อมาขายต่อได้ ทำให้มีผู้ขายสลากหน้าใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้น นอกจากมาตรการและแนวทางต่างๆ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เร่งดำเนินการทั้งในระยะสั้น ได้แก่ โครงการสลาก 80 โครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้า ตลอดจนโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักงานสลากฯ และแผนในระยะยาว คือ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว คณะอนุกรรมการเห็นว่า การออกใบอนุญาตให้ผู้จำหน่ายสลาก และมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอน่าจะเป็นอีกแนวทางที่นำมาประกอบการแก้ปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม แนวทางต่างๆ เหล่านี้ยังต้องนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เป็นประธาน ซึ่งมีกำหนดการประชุมในปลายเดือนนี้เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยชุดเฉพาะกิจนำโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าชุดนั้น เบื้องต้น ยังไม่พบการกระทำที่ผิดปกติ แต่ยังคงมีเรื่องของการมอบอำนาจ ซึ่งตนเห็นว่าควรเป็นเรื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะมีหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขอให้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ในการเบิกจ่ายสลากฯ ของที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในส่วนของการลงพื้นที่ตรวจสอบแผงจำหน่ายสลากทั่วประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับทราบข้อมูลการจำหน่ายสลากของผู้ขายเพื่อจะนำมาประกอบการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ตนยังคงยืนยันจะสามารถสรุปสาเหตุ และแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงของราคาสลากให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2 เดือนที่ระบุไว้