หุ้นปิดลบ 3.25 จุด ดัชนีแกว่งตัวกรอบแคบบวกสลับลบ โดยตลาดรับปัจจัยบวกราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลัง IEA เตือนน้ำมันตึงตัวหลังคว่ำบาตรรัสเซีย และ ศบค.ปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR แต่ปัจจัยลบกดดันจาก FTSE rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมาบ้าง มองแนวโน้มสัปดาห์หน้าทิศทางยังไม่ไปไหน ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบๆ สลับบวกลบ ปัจจัยเชิงบวกมาจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน ประเมินมาตรการคว่ำบาตรทำรัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน เม.ย. ขณะที่คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้กลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นมีแรงเก็งกำไรเข้ามา
ส่วนปัจจัยในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อน คาดว่าจะทำให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้น เป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว AOT, ERW, MINT
ขณะที่ปัจจัยลบวันนี้ FTSE rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา แม้จะคาดว่าจะลดน้ำหนักลงเพียงประมาณ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เป็นปัจจัยกดดัน sentiment ลงทุนทำให้ตลาดไปไหนไม่ไกล โดยในวันนี้ปัจจัยไม่แรงทั้งบวกและลบ
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดยังไปไหนไม่ไกล โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยในสัปดาห์หน้าให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด โดยในบริเวณ 1,680-1,700 จุดจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเพื่อล็อกกำไรและเล่นรอบมากกว่า