เครือไทย โฮลดิ้งส์ แจงการบิ๊กล็อตบนกระดานส่งผลต่อสัดส่วนการถือหุ้น ยันไม่มีผลต่อการบริหาร ส่วน "อาคเนย์ประกันภัย" สำนักงาน คปภ. ออกคำสั่งที่ 3/2565 ให้อาคเนย์ประกันภัยแก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนด และหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว
นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH แจงการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ตามที่ปรากฏในรายการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ผ่านระบบ Big Lot Board จำนวน 169,222,024 หุ้น คิดเป็น 22.5% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ เป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งบริษัท ผลมั่นคงธุรกิจ จำกัด ได้ขายหุ้นของบริษัทฯ ให้บริษัท อาคเนย์แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยภายหลังการปรับโครงสร้างหุ้นดังกล่าวจะทำให้โครงสร้างการถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไปดังนี้
บริษัท ผลมั่นคงธุรกิจ จำกัด ถือ 169,222,024 หุ้น หรือ 22.5% หลังการปรับโครงสร้างไม่เหลือสัดส่วนการถือหุ้น บริษัท อาคเนย์แมเนจเม้นท์ จำกัด ถือ 405,348,778 หุ้น หรือ 53.9% ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 574,570,802 หุ้น หรือ 76.40% ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ถือ 177,527,030 หุ้น หรือ 23.6% เหลือสัดส่วนเท่าเดิม
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างการถือหุ้นข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่ออำนาจการควบคุมบริษัทฯ นโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหาร
นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างหุ้นดังกล่าวเข้าข่ายได้รับยกเว้นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ รวมถึงบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ INSURE ในกรณีการได้มาซึ่งอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญในบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (Chain Principle) ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
พร้อมกันนี้ TGH ยังอ้างถึงสารสนเทศของบริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ สก.06/2565เรื่อง แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ฉบับลงวันที่ 27 มกราคม 2565 ตามเอกสารอ้างอิงนั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาคเนย์ประกันภัยมีความพยายามอย่างสุดความสามารถในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย (สำนักงานคปภ.) กำหนดไว้ เพื่อให้อาคเนย์ประกันภัยปฏิบัติตามก่อนจะเลิกธุรกิจประกันวินาศภัย อย่างไรก็ดี อาคเนย์ประกันภัยยังไม่สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนตามข้อกำหนดการขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยได้ เนื่องจากยังคงมีกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ซึ่งยังมีผู้เอาประกันภัยไม่แสดงความประสงค์จะขอเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 และไม่มีบริษัทประกันภัยอื่นใดแสดงความประสงค์รับโอนกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ดังกล่าว และในวันที่ 17 มีนาคม 2565 สำนักงาน คปภ. ออกคำสั่งที่ 3/2565 เรื่องให้อาคเนย์ประกันภัยแก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนด และหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว