กสิกรไทยส่งเควิชั่นร่วมลงทุนในซีเนียส (Zenius) สตาร์ทอัปผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการศึกษาขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย ด้วยมูลค่าการเพิ่มทุนรวมกว่า 40 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หวังต่อยอดความร่วมมือในการสร้างฐานลูกค้าให้บริการการชำระเงินและเจาะตลาดสินเชื่อเพื่อการศึกษาในอินโดนีเซีย ที่มีประชากรกว่า 270 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก
นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (เควิชั่น) เปิดเผยว่า เควิชั่นทำหน้าที่เป็นบริษัทลงทุนของธนาคารกสิกรไทย เดินหน้าค้นหาธุรกิจที่มีศักยภาพทางนวัตกรรมที่จะต่อยอดการใช้งานของลูกค้าธนาคารในตลาดภูมิภาค AEC+3 อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรกว่า 270 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน และอันดับที่ 4 ของโลก นอกจากนี้ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะกว้างใหญ่ ส่งผลให้มีการพัฒนานวัตกรรมที่สามารถเชื่อมโยงการใช้งานของผู้คนในพื้นที่ต่างๆ อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดเทคโนโลยีด้านการศึกษา (Education Technology หรือ EdTech) ภายในประเทศที่มีการขยายตัวเนื่องจากปัจจุบันประเทศมีการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ธุรกิจการศึกษาประเภทการสอนพิเศษนอกเวลาเรียน (Supplementary Education) การกวดวิชาเพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และหลักสูตรการสอนเพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ในประเทศอินโดนีเซียมีแนวโน้มเติบโตสูง และอยู่ในรูปแบบแพลตฟอร์มดิจิทัล รองรับการใช้งานของประชากรที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่กาะต่างๆ
ล่าสุด เควิชั่นได้ร่วมลงทุนในซีเนียส (Zenius) สตาร์ทอัปผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการศึกษา (Education Technology Platform) ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย ที่มีศักยภาพด้วยยอดการเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่สูง (High engagement rate) มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกว่า 20 ล้านครั้ง และมีหลักสูตรที่หลากหลายครอบคลุมทั้งวัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน รวมทั้งทีมผู้บริหารซีเนียสที่มีประสบการณ์ทั้งในภาคการศึกษาและการทำธุรกิจเทคสตาร์ทอัประดับยูนิคอร์น การลงทุนครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าไปร่วมทำงานกับซีเนียสในการพัฒนาบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงการศึกษาบนดิจิทัลให้แก่ชาวอินโดนีเซียได้ในอนาคต ทั้งบริการระบบการชำระเงินและธุรกรรมต่างๆ และบริการด้านสินเชื่อเงินกู้ยืมสำหรับการสมัครเรียนคอร์สออนไลน์ โดยคาดการณ์ว่าลูกค้าของซีเนียส โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานซึ่งเป็นชนชั้นกลางที่มีความมั่นคงทางการเงินจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการด้านสินเชื่อนี้ และมีความสามารถใช้การชำระคืนที่ดี ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ช้อมูลการปล่อยสินเชื่อจากผู้เล่น P2P ในอินโดนีเซีย พบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกรรมการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาระหว่างบุคคลทั่วไปผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (P2P Lending) ในประเทศอินโดนีเซียมีแนวโน้มเติบโตสูง ด้วยจำนวนการเบิกจ่ายสินเชื่อ (Loan disbursement) ในปี 2564 เทียบปี 2561 เพิ่มขึ้นถึง 24 เท่า
ทั้งนี้ การลงทุนครั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยและเควิชั่น ลงทุนผ่านกองทุน Beacon Venture Capital ของธนาคารกสิกรไทย
ด้านนายโรฮาน โมนกา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเนียส กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีเนียสถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจเทคโนโลยีทางการศึกษาในอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 20 ล้านคนและมีคลังเนื้อหาบทเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย มีผู้ใช้งานประจำราว 1 ล้านราย การเพิ่มทุนรอบนี้ของซีเนียสมีมูลค่ารวมกว่า 40 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ มาจากบริษัทผู้ลงทุนรวม 5 บริษัท ได้แก่ MDI Ventures, Northstar Group, Alpha JWC, Openspace Ventures และกสิกรวิชั่น ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหม่ล่าสุด หลังการระดมทุนรอบนี้ซีเนียสตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม EdTech ในประเทศอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทวางแผนการทำการตลาดเพื่อสร้างการจดจำและความรู้จักกับแบรนด์ รวมถึงขยายคลังเนื้อหาหลักสูตรและฐานผู้ใช้งาน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์สำคัญ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) ZeniusLand ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ edutainment สำหรับกลุ่มลูกค้าประถม โดยซีเนียสเป็นพันธมิตร exclusive ของ Disney ในอุตสาหกรรม EdTech ในอินโดนีเซีย 2) Zenius ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเกรด 10-12 โดยมีเนื้อหาการเตรียมตัวสำหรับการสอบในชั้นเรียนและสอบเข้ามหาวิทยาลัย 3) ZenPro ซึ่งเป็นหลักสูตรเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพสำหรับกลุ่มวัยทำงาน 4) ผลิตภัณฑ์ OMO (Online Merge Offline) โดยเป็นการผสมผสานการเรียนรู้ในห้องเรียนและแบบออนไลน์ ทั้งนี้ ซีเนียสได้เข้าไปควบรวมกิจการกับโรงเรียนกวดวิชา Primagama ซึ่งเป็นโรงเรียนกวดวิชาขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อต่อยอดสู่การเรียนผสมผสานนี้ต่อไป