พีรพัฒน์ เทคโนโลยี เตรียมเปิดฉากรุกอาเซียน ขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสู่เวียดนาม หลังตลาดมีโอกาสเติบโตระดับสูง สร้างศักยภาพการแข่งขันที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแผนก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Cleaning Hygiene Solutions
นายสืบพงศ์ เกตุนุติ ผู้ก่อตั้ง รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT เปิดเผยถึงการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม ที่ในปัจจุบันมีทิศทางชะลอตัวลง ยกเว้นประเทศเวียดนาม ที่ยังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่นแม้จะเกิดการระบาดของโควิด-19 เพราะประเทศเวียดนามมีการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยประชากรส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยทำงานที่พร้อมบริโภคและจ่ายภาษี ทำให้การปิดประเทศส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ที่พึ่งพาภาคการท่องเที่ยว หรือการส่งออก
ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศเวียดนาม บริษัทฯ ได้เข้าไปทำธุรกิจด้วยการแต่งตั้งตัวแทน พร้อมให้ความรู้และเทคโนโลยีร่วมกับผู้บริหารทางเวียดนาม รวมถึงการทำกิจการร่วมค้า (Joint Venture) เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ กับตัวแทนจัดจำหน่ายเดิมที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม มากกว่า 20 ปี ก่อนจะขยายการลงทุนไปยังกรุงฮานอย เมืองดานัง และเกาะฟู้ก๊วก จนถึงปัจจุบัน ทำให้สามารถสร้างเครือข่ายนักธุรกิจระหว่างกันได้มากขึ้น บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศเวียดนามที่กำลังถูกจับตามองในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของบริษัทชั้นนำของโลกและบริษัทต่างๆ จากประเทศไทย
“การรุกขยายรุกตลาดเวียดนาม อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ คือ หากสถานการณ์โควิด-19 ปรับตัวดีขึ้นในประเทศเวียดนาม เชื่อว่าตลาดการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากนักท่องเที่ยวประมาณ 80% ยังเป็นคนในประเทศเวียดนามเอง ที่เหลือจะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 20%” นายสืบพงศ์ กล่าว
นายสืบพงศ์ กล่าวอีกว่า PRAPAT ในฐานะผู้นำเทคโนโลยี Cleaning Hygiene Solutions กลุ่มธุรกิจ Hospitality & Food Industry ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ต่อเนื่อง โดยปี 2565 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นขยายธุรกิจจำหน่ายน้ำยาซักรีด น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในประเทศเวียดนาม พร้อมเสริมจุดแข็งด้านบริการหลังการขายและความเชื่อมั่นในแบรนด์
นอกจากนี้ ยังเตรียมตั้งฐานการกระจายสินค้า และการบริการแบบครบวงจรขึ้นที่เกาะฟูก๊วก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือและเจรจาการลงทุน ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการลงทุนเอง การลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการเข้าไปลงทุนในบริษัทอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ และพร้อมเดินหน้าลงทุนตามแผนเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
การปักหมุดหมายฐานการลงทุนใหม่มายังประเทศเวียดนาม ไม่เพียงเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตและกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่ายในตลาดเวียดนามทั่วประเทศ แต่ยังเป็นการขยายตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประเทศเวียดนามให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับสูงเพื่อดึงดูดให้มาร่วมลงทุน รวมถึงยังมีการตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน บริษัทฯ จึงได้ประโยชน์จากการลดภาษีส่งออกไปตามความตกลงการค้าเสรีกับตลาดใหญ่ที่ประเทศเวียดนามได้รับสิทธิพิเศษ
“หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ PRAPAT มีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อรองรับแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ประเทศเวียดนามถือเป็นตลาดสำคัญในกลุ่ม CLMV ที่บริษัทฯ จะผลักดันให้เติบโต เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในประเทศสูง โดย PRAPAT จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวเวียดนาม รวมทั้งต่อยอดและเป็นการวางรากฐานการส่งออกในระยะกลางและระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยมีฐานการผลิตและส่งออกหลักอยู่ในประเทศไทย โดยมีจุดหมายในการก้าวสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยี Cleaning Hygiene Solutions ของอาเซียน ภายใน 5 ปี” นายสืบพงศ์ กล่าว