หุ้นไทยปิดตลาดสุดสัปดาห์ร่วง -24.36 จุด โบรกฯ ชี้นักลงทุนหวั่นสงครามยืดเยื้อ ยกระดับความรุนแรงมากขึ้น เฉพาะการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่อาจสร้างความกังวลในด้านการรั่วไหลของกัมมันตรังสีอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,660-1,670 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันที่ 4 มี.ค.2565 ปรับตัวลดลง -24.36 จุด หรือ -1.44% โดยปิดที่ระดับ 1,671.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 87,712.50 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายวันนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,689.89 จุด ในขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,671.70 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 354 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 371 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,608 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 5,036.81 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,665.12 ล้านบาท ส่วนบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -595.37 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -776.32 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,061.40 ล้านบาท ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,296.52 ล้านบาท ปิดที่ 11.70 บาท ลดลง 0.80 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,133.55 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,414.65 ล้านบาท ปิดที่ 90.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,348.29 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.RCL ปิดที่ 50.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.54%
2.BH ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.60%
3.TQM ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.69%
4.SINGER ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.52%
5.COM7 ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.30%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 232.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 2.52%
2.DOHOME (XD) ปิดที่ 20.60 บาท ลดลง 4.10 บาท หรือ 16.60%
3.SCC ปิดที่ 381.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.04%
4.CBG (XD) ปิดที่ 104.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 3.24%
5.TOP (XD) ปิดที่ 50.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 4.76%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,289.37 จุด ลดลง -36.00 จุด หรือ -1.55% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 1,009.68 จุด ลดลง -16.47 จุด หรือ -1.60% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 630.96 จุด ลดลง -7.25 จุด หรือ -1.14%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จากความกังวลปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียที่ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องและมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเหตุโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปร์ริซเซีย (Zaporizhzhia) ในยูเครน ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหากสถานการณ์บานปลายออกไปจะส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงมีแรงขายทำกำไรออกมาเพื่อลดความเสี่ยง
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้ามองว่าดัชนีอาจจะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยหากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่ได้รุนแรงมากขึ้นก็มีโอกาสที่ช่วงต้นสัปดาห์อาจปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ ทางเทคนิคได้ หลังจากลงไปแรงพอสมควรแล้ว และคาดว่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์เพื่อรอความคืบหน้าของสถานการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กระทบต่อการลงทุนในช่วงนี้ และสัปดาห์หน้ายังมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะต้องติดตามด้วยเช่นกัน โดยประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,660-1,670 จุด