เสนาฯ เผยแผนธุรกิจปี 65 เดินหน้าทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่ สู่ SENA Next ครอบคลุม 3 เรื่องหลัก Next EXPANSION - Next ERA - Next LEVEL เปิดโมเดลธุรกิจใหม่เร่งสร้างรายได้ประจำ เน้นหาพันธมิตรมืออาชีพร่วมปั้นบริษัทในเครือให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมประกาศลงทุน 49 โครงการใหม่ มูลค่า 27,480 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ยอดขาย13,979 ล้านบาท ยอดโอน 12,186 ล้านบาท
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มมหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า หลังจากเสนาฯ เข้าซื้อหุ้นบริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทำให้ปัจจุบัน เสนาฯ มีพอร์ตโครงการที่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในมือรวมทั้งสินค้า 90 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 52,617 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยเสนาฯ 65 โครงการ มูลค่า 43,637 ล้านบาท และโครงการที่พัฒนาโดย JSP จำนวน 25โครงการ มูลค่ารวม 8,980 ล้านบาท จากการที่มีพอร์ตสินค้าในมือที่ใหญ่ขึ้นจะทำให้ในปีนี้ เสนาฯ มีสินค้าอยู่ภายใต้การบริหารเยอะขึ้น ซึ่งจะทำให้มียอดขายที่เพิ่มขึ้นไปด้วย
“ในปี 65 นี้ถือเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของเสนาที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญภายใต้กลยุทธ์ “SENA Next” มิติใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมตอกย้ำแนวคิด Made From Her “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า” ดร.เกษรา กล่าวและว่า สำหรับกลยุทธ์ “SENA Next” ประกอบด้วย 3 Next ประกอบด้วย 1.Next Expansion โดยในปี 65 นี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด 49 โครงการ มูลค่ารวม 27,480 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวสูง 21 โครงการ และแนวราบ 28 โครงการ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการ JSP ทำให้เสนาขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ได้ครอบคลุมทุกโลเกชัน และมีจำนวนโครงการแนวราบเข้ามาอยู่ในพอร์ตสินค้าจำนวนมาก โดยบริษัทวางเป้ายอดโอนในปีนี้ไว้ที่ 12,186 ล้านบาท และยอดขาย 13,979 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการขายโครงการรวมปัจจุบัน จำนวน 41 โครงการ มูลค่ารวม 25,137 ล้านบาท และโครงการใหม่ 49 โครงการ มูลค่า 27,480 บ้านบาท
2.Next ERA คือการเฟ้นหาพันธมิตรเพื่อขยายโอกาสในธุรกิจใหม่ 1.SENA WELLNESS ธุรกิจบริการด้านการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ SENA จับมือทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจัดตั้งบริษัทในเครือภายใต้ Brand “SENA HEALTHCARE” รองรับการเติบโตของสังคมสูงอายุ 2.SENA WAREHOUSE ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า พร้อมช่วยบริหารจัดการแบบครบวงจรที่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของกลุ่มลูกค้าได้ดี 3.S FINANCIAL SERVICE ธุรกิจให้บริการทางการเงินเพื่อซื้ออสังหาฯ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถมีบ้านอย่างปรารถนา
ขณะเดียวกัน ด้านของการพัฒนาแบรนด์โปรดักต์เพื่อให้ครอบคลุมและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่ ปีนี้ เสนายังคงเน้นเปิดตัว “SENA Kith” คอนโดของคนช่างคิด ไฟติ้งแบรนด์ของเสนาที่ได้รับการตอบรับจากตลาดดีมากในปีที่ผ่านมา พร้อมปั้นแบรนด์คอนโดใหม่ “Flexi” เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Z ที่กำลังมองหาบ้านหลังแรก และโครงการแนวราบ ซีรีส์ทาวน์โฮมอิสระ ภายใต้แบรนด์ “SENA Village” และ 3.Next Level การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่ผ่านมา เสนาฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ซึ่งยังคงมอบความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมมือกันพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 65 มีแผนจะพัฒนาโครงการร่วมกันทั้งแนวราบ และแนวสูง 19 โครงการ รวมมูลค่า 13,900 ล้านบาท นอกจากนี้ ฮันคิวฯ อาจจะมีการร่วมลงทุนไปยังทำเลที่ JSP เปิดโครงการใหม่ๆ ในอนาคตด้วย เช่น ในพื้นที่กัลปพฤกษ์ บางใหญ่-บางบัวทอง จ.ฉะเชิงเทรา และศรีราชา
ส่วนการขยายธุรกิจใหม่ในปี 65 บริษัทฯ ยังคงแสวงหาโอกาสและธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตต่อเนื่อง เบื้องต้นวางงบลงทุนไว้ 1,000 บาท เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะเริ่มเห็นการประกาศร่วมทุน หรือการลงทุนออกมาต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ เสนาฯ ยังให้ความสำคัญกับการผลักดันให้เกิดการเติบโตในบริษัทลูก ซึ่งแบ่งเป็น 1.POWER CASH ธุรกิจบริการสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อซื้อบ้าน และคอนโดมิเนียม 2.SK ASSET MANAGEMENT ธุรกิจจัดหาและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้มีมูลค่าสูงสุดสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า 3.SENA WELLNESS ธุรกิจบริการด้านการดูแลป้องกันและฟื้นฟูสุขกาพ SENA จับมือทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจัดตั้งภายใต้ Brand "SENA HEALTHCARE" ซึ่งจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้มากขึ้น 4.The Service Residence ธุรกิจเรื่อง Investment Property Program (IP) และ Service Apartment 5.SENA WAREHOUSE ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าพร้อมช่วยบริหารจัดการแบบครบวงจร โดยจะเห็นการร่วมทุนกับพันธมิตรในปีนี้ เพื่อมุ่งสร้างฐานรายได้ประจำ 6.S/FINANCIAL SERVICE ธุรกิจให้บริการทางการเงิน เพื่ออสังหาฯ ซึ่งจะร่วมมือกับพันธมิตรบริษัท IT และผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ระดับประเทศ เบื้องต้นจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 2/65นี้
"ในอนาคตเมื่อบริษัทลูกที่อยู่ในเครือจะช่วยให้ SENA มีการขยายตัวและรายได้เติบโตมากขึ้น มีความแข็งแกร่งมากขึ้นและหากบริษัทใดมีศักยภาพในการเติบโตสูง เสนาฯ จะผลักดันให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย"