MICRO หรือไมโครลิสซิ่ง เปิดสตอรี่ปี 65 วางเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อแตะ 5,000 ล้านบาท เติบโตราว 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 3,800 ล้านบาท จากปัจจัยหนุนภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาสดใส อีกทั้งกลุ่มลูกค้าใช้รถบรรทุกมือสองในการขนส่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ พร้อมลุยขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 4-8 สาขา และเตรียมกดปุ่มสตาร์ทสาขาแรกของปีเสือ สาขาที่ 20 จ.สุโขทัย ภายในไตรมาส 1/65 ลั่นคุมเข้ม NPL ไม่เกิน 3% ล่าสุด จัดตั้ง “ไมโคร ฟิน” สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถ และไม่มีทะเบียนรถเป็นประกัน เริ่มเดินเกมขยายบริการทางการเงินแบบครบวงจร เจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ด้านบอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.077 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 เมษายน 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน เปิดเผยถึงภาพใหญ่ของธุรกิจรถบรรทุกมือสองในปีนี้ว่า แนวโน้มจะมีการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่าน โดยในปี 2565 ตั้งเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ราว 5,000 ล้านบาท โดยคาดเปิดยอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 3,000-3,300 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้พอร์ตสินเชื่อเติบโตราว 4,700-5,000 ล้านบาท คิดเป็น 25-30% จากพอร์ตสินเชื่อของปีก่อนที่ 3,800 ล้านบาท
ขณะที่กลยุทธ์การขยายสาขา เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ MICRO สามารถกระจายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าได้ทั่วประเทศมากขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีสาขาจำนวน 19 สาขา ภายในปี 2565 ตั้งเป้าขยายสาขากว่า 4-8 สาขา โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ เตรียมเปิดสาขาที่ 20 จ.สุโขทัย พร้อมขยายสาขาเพิ่มอีกในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และเขตปริมณฑล เล็งจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มเต็นท์รถบรรทุกมือสอง เน้นขยายไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับดีมานด์ของการขยายเศรษฐกิจในประเทศ
อย่างไรก็ดี ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทางบริษัทได้มีการออกมาตรการพักชำระหนี้ให้ลูกค้า แต่หลังจากเปิดไตรมาสแรกของปีนี้ มีลูกค้ากลับมาชำระได้เกือบ 90% แล้ว สะท้อนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกส่วนใหญ่เป็นรถที่ใช้ในการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ ลูกค้ามีความจำเป็นในการใช้งานรถบรรทุกมือสองสำหรับการทำงาน และประกอบอาชีพ ทั้งรับจ้างขนส่งสินค้าทางการเกษตร สินค้าภาคอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รวมถึงนโยบายการประกาศเปิดประเทศ น่าจะเป็นสัญญาณเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคม ที่จะกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจให้คึกคักมากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 632.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 444.5 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง 503.9 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 119.9 ล้านบาท และรายได้อื่น 8.6 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 187.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38.8% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 135.1 ล้านบาท ขณะที่หนี้ NPL ณ สิ้นไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ระดับ 3.47%
ด้านแผนธุรกิจของบริษัท ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ จำกัด ที่จัดตั้งขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อบุกตลาดนายหน้าประกันภัย ตั้งเป้าประกันภัยปีต่อจากฐานลูกค้าเดิมของบริษัทฯ ประมาณ 20-30% ของลูกค้าที่ประกันภัยครบอายุในปี 2565 ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2,500 ราย และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัท
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้อนุมัติจัดตั้งบริษัท ไมโครฟิน จำกัด ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับประเภทสินเชื่อที่ไม่มีทะเบียนรถเป็นประกัน โดยมีวัตถุประสงค์การจัดตั้งเพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกันได้ถูกต้อง และเพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของบริษัทในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกมือสองให้ครบวงจร รุกต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สุดท้ายเพื่อเป็นรากฐานในการก่อให้เกิดการผนึกกำลังกันระหว่างบริษัท และนำไปสู่ระบบนิเวศธุรกิจที่สมบูรณ์ในอนาคต โดยไมโครลิสซิ่งถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% คาดว่าจะได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทยและสามารถเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 3/2565 นี้
ดังนั้น เพื่อเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นและตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.077 บาท คิดเป็นเงินรวม 72.0 ล้านบาท ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ในวันที่ 22 เมษายน 2565 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 เมษายน 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2565