NCL ฟอร์มเจ๋ง! ประกาศงบปี 64 พลิกมีกำไรสุทธิ 111.1 ล้านบาท จากขาดทุน 26.07 ล้านบาท รับอานิสงส์ค่าระวางเรือ-ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานช่วยหนุน ส่วนปี 65 ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ “พงษ์เทพ วิชัยกุล” วางเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% เดินหน้าต่อยอดธุรกิจโกดังสินค้าและธุรกิจขนส่งทางบกให้บริการ Fulfillment center ให้ผงาด
นายพงษ์เทพ วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่าในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,928.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 924.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 111.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 526% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 26.07 ล้านบาท เพราะได้รับปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้นและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้รายได้เติบโตมากกว่าเท่าตัว ส่วนในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าผลประการจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปี 2564
“NCL หากดูจากผลประกอบการในปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่าเติบโตขึ้นทุกไตรมาสจากรายได้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดและการบริหารค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดในปี 2565 แนวโน้มในอนาคตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าลงทุนในธุรกิจดิจิทัลที่มีฐานรายได้สม่ำเสมอประกอบกับความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจะเป็นเครื่องจักรใหม่ส่งเสริมความสามารถในการรองรับลูกค้าและพัฒนาบริการใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากขึ้น” นายพงษ์เทพ กล่าว
ส่วนสถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และพื้นที่บนเรือขนส่งที่ยังไม่คลี่คลาย คาดว่าในปีนี้จะส่งบวกต่อบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเพิ่มความสามารถในการรองรับลูกค้าขนส่งระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเส้นทางการขนส่งไปยังท่าเรือต่างๆ การเพิ่มปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ การพัฒนาบุคลากรภายในจึงเป็นสิ่งจำเป็นประการแรกของแผนธุรกิจปี 2565
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ต่อยอดจากธุรกิจโกดังสินค้าและธุรกิจขนส่งทางบกด้วยบริการ Fulfillment center หรือบริการคลังสินค้าแบบครบวงจรเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ประกอบกับการเข้าลงทุนใน บริษัท ชีส ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค จำกัด (CDN) ซึ่งประกอบธุรกิจ Digital marketing & IT infrastructure ทำให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพของระบบภายในองค์กรและคาดว่าจะสามารถรับรู้ผลกำไรได้ในช่วงปลายไตรมาส 1/2565
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ได้มาตรฐานสากล โดยจะเป็นทางเลือกแรกและทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าของบริษัท เพื่อเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ คือการเป็นมืออาชีพในการช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าให้มากที่สุด