หุ้นเช้าปิดลบ 10.17 จุด ดัชนีปรับลงรับความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครนเพิ่มอุณหภูมิขึ้น หลังผู้นำรัสเซียรับรองเอกราช 2 แคว้นในยูเครนและส่งทหารเข้าประจำการ ทำให้มีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงไหลเข้าพันธบัตรแทน ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ตลาดบ้านเราแรงขายหุ้น Big Cap สลับแรงซื้อกลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงพยาบาลรับปัจจัยบวกสถานการณ์โควิดในประเทศ คาดบ่ายตลาดยังลงต่อเนื่อง
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศจากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียรับรองเอกราชของ 2 แคว้นในยูเครนและส่งกองทหารเข้าประจำการ ซึ่งอาจทำให้รัสเซียตัดสินใจบุกเข้ายูเครนในไม่ช้า ส่งผลให้ดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์สร่วงไปกว่า 500 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลงมาที่ 1.85% ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่ง 1.5%
ประกอบกับสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์และกลุ่มเปิดเมือง แต่มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้อานิสงส์สถานการณ์โควิด และบริษัทที่มีผลประกอบการดี ปรับตัวขึ้นมาในระยะสั้น
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,684.15 จุด ลดลง 10.17 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.60% มูลค่าการซื้อขายราว 3,587.87 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายกิติชาญ กล่าวว่า น่าจะปรับตัวลงต่อจากช่วงเช้า แต่คาดว่าไม่ปรับตัวลงมากนัก ยังต้องติดตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดในช่วงบ่าย และสถานการณ์โควิดในประเทศ พร้อมให้แนวรับที่ 1,673 และ 1,670 จุด แนวต้านที่ 1,690 และ 1,694 จุด