ถ้าพูดถึง DJ แนวเพลง EDM สายย่อตื๊ดๆ คงไม่มีใครไม่รู้จักสุดยอดดีเจรุ่นเก่าที่ยังเก๋า และควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ในหลายผลงานศิลปินและคอนเสิร์ตระดับโลกอย่าง "Steve Aoki" ซึ่งเขาได้เปิดเผยงานอดิเรกใหม่หลังหันมาจับงาน NFTs ร่วมกับ Gala Music จากผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของไวรัส Covid-19
Steve Aoki กล่าวในงาน Gala Music ว่าเงินรายได้ที่เป็นค่าลิขสิทธิ์จากการทำเพลงนั้นเพียงอย่างเดียวแทบไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตของศิลปิน ซึ่งเขาเองนั้น เริ่มต้นการเป็นศิลปิน NFTs มาได้ 2-3 ปีช่วงการระบาดของไวรัส ซึ่งขณะนั้นแผนการเล่นคอนเสิร์ตที่วางไว้ทั่วโลกต้องยกเลิกอย่างไม่ต้องมีข้อแม้ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ WHO ส่งผลให้รายได้จากการตระเวนเล่นคอนเสิร์ตตามงานต่างๆ ทั่วโลก หายไปในทันที ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้จากการเป็นศิลปินในรูปแบบ NFT กลับมานั้น เขามองว่าเป็นการช่วยปฏิวัติอุตสาหกรรมดนตรีอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้ว Aoki นอกจากจะเป็นศิลปิน NFTs แล้ว ยังเป็นแฟนตัวยงของ Gala Games รวมถึงการแตกแขนงธุรกิจล่าสุดของบริษัทอย่าง Gala Music โดยเขาได้ขึ้นพูดเปิดงานในอีเวนต์ของ Gala Music ซึ่งจัดขึ้นที่ The Forum ในเมืองอิงเกิลวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งการพูดคุยเป็นไปในลักษณะของการถามตอบแบบตัวต่อตัว โดย Sarah Buxton ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Gala Games ได้ขึ้นพูดคุยเกี่ยวกับเกมและดนตรี ตามด้วย BT ศิลปินแนวอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้มาพูดคุยถึง Orbs ซึ่งเป็นคอลเลกชัน NFTs ของเขาที่วางจำหน่ายไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โดยคอลเลกชัน Orbs เรียกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในวงการ NFT ตลอดช่วงสุดสัปดาห์เพราะมีราคาเปิดตัวสูงลิบที่ 11.1 ETH ต่อชิ้น หรือราว 32,000 ดอลลาร์ แม้ว่าราคานั้นจะค่อยๆ ปรับลดลงจนกว่าจะขายหมด ซึ่งหลังจบช่วงของการพูดคุยแบบตัวต่อตัวแล้ว ต่อด้วยเป็นการแสดงสดของ H.E.R., BT, Kings of Leon, 3lau และปิดท้ายการแสดงด้วย Aoki
โดยในช่วงการถามตอบ Aoki เรียกตัวเองว่า “Futurist” ซึ่งเขาเผยมุมมองด้วยความเชื่อมั่นว่า NFTs จะปฏิวัติอุตสาหกรรมดนตรีได้อย่างแน่นอน ในปัจจุบันศิลปินมีรายได้เพียงเล็กน้อยจากค่าลิขสิทธิ์ Aoki ยังเผยอีกว่ารายได้จากงาน DJ ของเขานั้นคิดเป็นเกือบ 95% ของรายได้ทางดนตรีทั้งหมดของเขา
“ถ้าผมไม่ได้มีงาน DJ…ผมคงต้องหางานใหม่แล้วล่ะ” เขาพูด เรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าแฟนคลับจำนวนมาก
"ภายใต้โมเดลธุรกิจในปัจจุบัน ค่าลิขสิทธิ์ไม่คุ้มเลย แต่มันก็มีส่วนช่วยศิลปินได้บ้าง ถ้าจะให้ลงรายละเอียดคือ ในช่วง 10 ปีที่ผมทำงานดนตรีมา ออกเพลงมา 6 อัลบั้ม และเมื่อรวมรายได้ทั้งหมดนี้ ยังน้อยกว่าที่ผมได้จากการปล่อย NFTs ครั้งเดียวเมื่อปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังสามารถเต็มที่กับงานดนตรีมากขึ้น” Aoki กล่าว
เขายังเสริมว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ NFTs น่าตื่นเต้นเพราะมันขึ้นอยู่กับคอมมูนิตีที่ก่อตัวมาสนับสนุนพวกเขา ซึ่งสำหรับ Aoki แล้ว เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเพราะนักดนตรีส่วนใหญ่มีฐานแฟนเพลงที่คลั่งไคล้จำนวนมากอยู่แล้ว
เขายังยกตัวอย่างกรณีวง BTS แต่ไม่ได้กล่าวถึงกระแสตีกลับที่ศิลปินเกาหลีชื่อดังต้องเผชิญจากเหล่าแฟนเพลง หลังประกาศเปิดตัว NFTs ของวง
“และเมื่อเพลง NFTs เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมสนับสนุนศิลปิน ค่ายเพลงต่างๆ ย่อมจะต้องทำอะไรมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มเพลงในเพลย์ลิสต์” Aoki กล่าว
Aoki ไม่ได้เป็นเพียงผู้สร้างผลงานแต่ยังเป็นนักสะสมอีกด้วย เขาเป็นเจ้าของ NFTs ชุด Bored Ape Yacht Club (BAYC) หลายชิ้น และยังทำผลงานบน NFT Marketplace ที่อยู่บนบล็อกเชน Solana และปัจจุบันเขาได้เปิดตัว Aokiverse คลับแบบสมัครสมาชิกที่มี NFTs ซึ่งจะมีอยู่ในโลกจริงด้วย
นอกจากนี้ Aoki ยังให้มุมมองถึงแนวคิดอินเทอร์เน็ตยุคถัดไป หรือ Web3 หมายถึงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ซึ่งรวมถึงการเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองด้วย เขายังกล่าวอีกว่าในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลกว่านี้ จะถึงยุคที่เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมไม่สามารถยึดครองข้อมูลของผู้ใช้ไว้ได้อีกต่อไป และอินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นสิ่งที่ให้อำนาจกับผู้ใช้งาน
“จะมีเวอร์ชันใหม่ที่ซึ่งเราสามารถแสดงสิ่งที่เป็นของเรา และจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา” Aoki กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ NFTs คือโทเคนที่มีความแตกต่างเฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร อยู่บนบล็อกเชน เฉกเช่น Ethereum หรือ Solana และสามารถบ่งบอกกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเหนือรูปภาพ ผลงานดนตรี หรือแม้แต่ทรัพย์สินอื่นๆ ที่จับต้องได้ในโลกจริงด้วย ตลาด NFTs บูมอย่างมากในปีที่ผ่านมา และปัจจุบันกลายเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์